เตรียมพร้อม 11.11 ส่องเทคนิค 'Live' ขายของออนไลน์ยังไงให้ยอดขายปัง
เปิดทริค Live ขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะไลฟ์ผ่าน Facebook หรือโซเชียลมีเดียไหนๆ ก็ใช้กระตุ้น "ยอดขายพุ่ง" ได้ โดยเฉพาะช่วงแคมเปญแจกโปรเด็ด 11.11 ดันยอดพุ่ง ถึงเป้าได้แบบไม่ต้องลงทุนสูง
เทรนด์แรงแซงทุกเทคนิคขายของออนไลน์ นาทีนี้ไม่พูดไม่ได้ คือ การไลฟ์ (Live) ขายของออนไลน์ หรือเรียกแบบมืออาชีพหน่อย คือ ไลฟ์คอมเมิร์ซ (Live Commerce) เป็นการขายสินค้าผ่านไลฟ์สตรีมมิงบนโซเชียลมีเดีย ที่กำลังกลายเป็นกลยุทธ์สุดปังสำหรับของพ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่ ที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสนใจสินค้าและบริการ สนุกกับการซื้อสินค้ามากขึ้น และมีโอกาสตอบโต้ สอบถามผู้ค้าได้ราวกับได้เจอตัวเป็นๆ แบบไม่ต้องเดินทางไปไหนเลย
ความสะดวกสบายของลูกค้า เทคโนโลยีทางการเงินที่เข้ามาช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ลูกค้าเริ่มมีพฤติกรรมที่นิยมการซื้อของผ่านไลฟ์มากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม การไลฟ์ ต้องอาศัยหลายปัจจัยรวมกันจึงจะจุดติด ปิดการขายได้ หรือประสบความสำเร็จถึงขั้นโด่งดังในวงการขายของออนไลน์ สำหรับคนที่ยังไม่เคยเริ่มต้นขายของผ่านการไลฟ์เลย หรือคนที่เคยลองทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวบรวมทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่อยากเจาะกลุ่มเป้าหมายในโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะ "Facebook" (เฟซบุ๊ค)
1. เตรียมอุปกรณ์การ Live Streaming ให้พร้อม
การ "ไลฟ์" ที่สวยงาม ต่อเนื่อง ไม่สะดุด เป็นที่พึงพอใจของลูกค้า เริ่มต้นได้จากการเตรียมอุปกรณ์ในการไลฟ์ที่เหมาะสม ปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ทำขึ้นสำหรับการไลฟ์โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก บางครั้งสามารถตั้งอุปกรณ์และไลฟ์ได้คนเดียว หรือใช้คนแค่ 2 คนแต่ดูเป็นมืออาชีพ โดยอุปกรณ์ที่ช่วยให้การไลฟ์ขายของควรมีไว้เป็นตัวช่วย ได้แก่
- ไฟวง หรือชุดไฟในการไลฟ์ แสงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สินค้าน่าซื้อ หรือทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่กำลังไลฟ์อยู่ดูดีน่าติดตามต่อ อย่างน้อยที่สุดลูกค้าจะต้องเห็นสินค้าได้ชัดเจน เห็นรายละเอียดของสินค้า เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันผู้ผลิตทำไฟสำหรับการถ่ายทำออกมาหลากหลายขนาด และหาซื้อได้ง่ายๆ ในราคาเริ่มต้น ไม่เกิน 1,000 บาท
- ไมค์โทรศัพท์ เสน่ห์ของการไลฟ์คือการได้ตอบโต้กันระหว่างลูกค้ากับผู้ขายแบบเรียลไทม์ เสียงการพูดที่ชัดเจนทำให้ลูกค้าอยากฟังต่อ และไม่เกิดความรำคาญ ดังนั้นอุปกรณ์ตั้งต้นที่ต้องมีทุกครั้งที่จะไลฟ์คือไมค์โครโฟน ซึ่งปัจจุบันมีไมค์โครโฟนสำหรับโทรศัพท์มือถือที่คุณภาพดี ทั้งแบบสาย และแบบไร้สาย ในราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น
- ขาตั้งมือถือหรือขาตั้งกล้อง อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะคนที่ไม่มีทีมงานช่วยไลฟ์ ซึ่งขาตั้งกล้องหรือขาตั้งมือถือจะช่วยให้จัดสถานที่ได้ง่ายขึ้น การเลือกขาตั้งที่แข็งแรง ปรับได้หลายระดับ จะทำให้สามารถใช้งานได้หลายโอกาสและทำให้สามารถไลฟ์ในมุมต่างๆ ที่หลากหลายได้ไม่น่าเบื่อ
- กระดิ่ง เสียงกริ๊งๆ ปลุกเร้าให้ลูกค้าตื่นเต้นกับการไลฟ์แบบไม่น่าเบื่อ อย่างไรก็ตามอย่าใช้มันมากเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกค้ารำคาญได้
2. การจัดวางสินค้า
การจัดวางสินค้าในไลฟ์ที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าที่ผ่านมาเห็นไลฟ์ รู้ว่าเรา "ขายอะไร" ได้ทันทีที่เห็นในไม่กี่วินาที ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ที่สนใจสินค้าของเราเข้ามาชมไลฟ์ได้อีกทางหนึ่ง โดยการจัดเรียงสินค้าให้มองเห็นง่าย มีสินค้าดูหลากหลายอยู่ในเฟรมแสดงผลไลฟ์อย่างชัดเจน จะกระตุ้นความอยากซื้อของลูกค้าได้
3. เตรียมสคริปต์ กำหนดกติกาซื้อสินค้าที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย
การเตรียมสคริปต์ หรือลิสต์ลำดับสิ่งที่จะพูดในการไลฟ์ ทำให้สามารถสื่อสารเรื่องที่จะพูดกับลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นไลฟ์ที่อาจรู้สึกประหม่าและลืมเรื่องสำคัญที่ควรจะพูด หากมีการเรียบเรียงสคริปต์คร่าวๆ ไว้ หรือมีการซ้อมก่อนเริ่มไลฟ์จริงสักนิด จะช่วยให้พูดได้ราบรื่นและดูเป็นมืออาชีพมากกว่า
นอกจากนี้ การกำหนดกติกาในการซื้อสินค้าอย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ากับทางร้าน เช่น การกำหนดหมายเลขสินค้าแต่ละตัวไว้ ทำให้ไม่ต้องพิมพ์ยาวเมื่อต้องการ CF (Confirm) ซื้อสินค้า เป็นต้น
4. สร้างบรรยากาศให้คนอยากติดตาม
บรรยากาศโดยรวมของไลฟ์เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะดึงดูดลูกค้าให้ติดตามจนจบไลฟ์ การสร้างบรรยากาศที่ดีอาจทำได้จากการใช้ "เพลง" ช่วย เช่น การเปิดเพลงคลอไประหว่างไลฟ์ โดยเลือกเพลงที่เหมาะกับสินค้าและบริการของตัวเอง เพื่อเพิ่มอรรถรสและไม่ทำให้บรรยากาศเงียบเชียบเมื่อนึกคำพูดไม่ออก หรือหันไปทำอย่างอื่น
นอกจากนี้ "ลีลาการนำเสนอสินค้า" และการพูดของผู้ไลฟ์ก็มีส่วนทำให้บรรยากาศของไลฟ์ดีและดึงผู้ชมให้อยู่กับการไลฟ์จนจบ และหากผู้ไลฟ์มีลีลาที่โดนใจก็มีส่วนทำให้ลูกค้าติดตามไลฟ์อยู่ตลอด และมีส่วนในการตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะอยากมีส่วนร่วมในการไลฟ์ด้วย
5. ทำกิจกรรมกระตุ้นการขาย
แม้จุดประสงค์ของการไลฟ์คือการขายของ แต่การตั้งหน้าตั้งตาขายของอย่างเดียวทำให้ไลฟ์นั้นๆ น่าเบื่อจนเกินไป ทุกครั้งที่มีการไลฟ์จึงควรเพิ่มลูกเล่นอื่นๆ เข้าไประหว่างการไลฟ์ด้วย เพื่อเซอร์ไพรส์ผู้เข้าชม เช่น กิจกรรมแจกของเมื่อมีการกดไลค์ แชร์ หรือเชิญเพื่อนให้เข้าชมไลฟ์ หรือมีกิจกรรมการตอบคำถามง่ายๆ เพื่อรับของสมนาคุณ หรือแม้แต่การคั่นเวลาด้วยการเปิดประมูลสินค้าภายในร้านในราคาเริ่มต้นที่ 1 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ เราควรมีการจัดกิจกรรมร่วมสนุกคั่นเวลาเป็นช่วงๆ เพื่อดึงให้ผู้เขาชมติดตามไลฟ์ของเราไปเรื่อยๆ ไปจนจบ สลับไปกับการขายของเป็นล็อตๆ ที่ทำให้ลูกค้าสนุกกับการซื้อและการชิงรางวัลที่อยากได้ในเวลาเดียวกัน
ที่มา: taokaemai