หุ้น 'อินทัช-ไทยคม' ร่วง พิษ 'ดีอีเอส' ฟ้อง7.7 พันล้าน
ราคาหุ้น "อินทัช-ไทยคม" กอดคอร่วง 1.39% สวนตลาดหุ้นขึ้นแรง หลังข่าวถูก "ดีอีเอสไฟ้องเรียกค่าเสียหาย 7.7 พันล้าน ผ่านอนุญาโตตุลาการ
ราคาหุ้นบริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปิดตลาดเช้านี้ที่53.50 บาท ลดลง 0.50 บาท ก่อนถูกแรงเทขายกดราคาลดตาเนื่อง ณ เวลา 10.01 น ราคาลดลงไปทึ่ 53.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.39% มูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาท ส่วนหุ้นไทยคม (THCOM) เคลื่อนไหวที่5.40 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.92% ขณะที่ดัชนีหุ้นเปิดตลาดขึ้นไปสูงสุดที่ 1,332.20 จุด บวก 46.49 จุด
ราคาหุ้นอินทัช และ ไทยคม ที่ลดลง หลังปรากฎข่าวว่ากระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)ฟ้องอินทัชและไทยคม เรียกค่าเสียหายมูลค่ากว่า 7.7 พันล้านบาท
วานนี้ (9 พ.ย. 63)บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือ INTUCH แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ได้รับหนังสือแจ้งการเสนอข้อพิพาทเข้ากระบวนการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการและคําเสนอข้อพิพาทของดาวเทียมไทยคม 5 จากกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงฯ) ซึ่งกระทรวงฯ เรียกร้องให้บริษัทและบริษัท ไทยคม จํากัด (มหาชน) หรือ THCOM ดําเนินการดังนี้
ให้บริษัทและไทยคมดําเนินการสร้างและส่งมอบดาวเทียมทดแทนดาวเทียมไทยคม 5 หากไม่ส่งมอบ ดาวเทียมทดแทนดาวเทียมไทยคม 5 ให้ใช้ราคาดาวเทียมเป็นเงิน 7,790.09 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปีตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จ และค่าปรับเป็นเงิน 4.98 ล้านบาท (คํานวนจากวันที่ 25 ก.พ. 2563 ถึงวันที่ 30 ต.ค.2563) พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี และ ค่าปรับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบดาวเทียมทดแทนดาวเทียมไทยคม 5 หรือชําระ เงินค่าเสียหายครบถ้วน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า ดาวเทียมไทยคม 5 ในปัจจุบันไม่สามารถใช้การได้แล้ว และบริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) จะไม่สามารถส่งมอบดาวเทียมไทยคม 5 ให้ดีอีเอสได้ตามกำหนด เนื่องจากดาวเทียมไทยคม 5 ปัจจุบันได้กลายเป็นขยะอวกาศไปแล้ว ดังนั้นกระทรวงดีอีเอส จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อพิจารณาเรียกร้องค่าชดเชยจากเอกชนในฐานะคู่สัญญา ซึ่งคณะทำงานได้ตั้งวงเงินชดเชยไว้ที่ 7,790 ล้านบาท
“ผมเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติ เมื่อเอกชนไม่ทำตามข้อตกลง ดีอีเอส ก็เลยต้องยื่นโนติส เพื่อให้เอกชนดำเนินการ เป็นการปกป้องผลประโยชน์ จะรอให้ครบวันส่งมอบในปีหน้า ทั้งๆที่รู้ว่า ดาวเทียมไทยคม 5 เป็นขยะอวกาศไปแล้ว ก็จะยิ่งล่าช้าออกไปอีก” นายพุทธิพงษ์ กล่าว