คงมุมมองเชิงบวกระยะกลางจากประมาณการกำไรบจ.ที่ผ่านจุดต่ำสุด
ทำไมตลาดหุ้นถึงปรับขึ้นแรง?
ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราประเมินความเสี่ยงทางลงของตลาดที่ 1180 จุด และมองหุ้นจะเกิดการหมุนกลุ่มจากหุ้นกลาง-เล็กมายังหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจาก 1) ทิศทางเงินทุนที่มีแนวโน้มลดน้ำหนักการลงทุนจากสหรัฐฯ มายังเอเชียและตลาดเกิดใหม่ จากความเสี่ยงเชิงนโยบายของสหรัฐฯ ทั้งจากนโยบายการขึ้นภาษีของโจ ไบเดน และแนวคิดในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในกลุ่มทเทคโนโลยี 2) ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนใน SET Index ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา 3) ความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น (Earnings Yield Gap - EYG) ที่ระดับมากกว่า 3% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำ และประมาณการกำไรปรับเพิ่มขึ้น จะทำให้ EYG มีทิศทางเพิ่มขึ้น หรือหุ้นน่าสนใจลงทุนมากขึ้น เมื่อเทียบกับพันธบัตร
คงมุมมองบวกระยะกลาง จากประมาณการกำไรบจ.ทำจุดต่ำสุด เราคงมุมมองบวกระยะกลางของ SET Index โดยประเมิน trading rage อิง PER 15.5-17.5x ที่ 1,200-1,400 จุด และอัพไซด์มีโอกาสสูงกว่านั้นจากประมาณการกำไรบจ.ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในทิศทางชยับขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยังสนับสนุนมุมมองในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาของเราว่าเงินทุนจะหมุนจากหุ้นกลาง-เล็ก ไปยังหุ้นใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการถือครองต่ำและประมาณการกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ ธนาคาร, พลังงาน (ปิโตรเคมี), อสังหาริมทรัพย์, กองทุนโครงสร้างพื้นฐานและกอง REITs
การปรับหุ้นเข้า/ออกดัชนี MSCI - รอบ พ.ย.63 (มีผลหลังปิดตลาด 30 พ.ย.63) Global standard: (+) หุ้นเข้า - DELTA, STGT / (-) หุ้นออก - IRPC, TMB // Small caps: (+) หุ้นเข้า - BANPU, ICHI, IRPC, JMART, M, RBF, TFG, TISCO, VGI / (-) หุ้นออก - STPI, THAI ทั้งนี้ดัชนี MSCI ปรับสมาชิกจากการเพิ่มขนาดของ market cap เป็นหลัก ซึ่งในภาวะที่หุ้นปรับขึ้นมามากแล้ว อาจทำให้ผลของการบรรจุหุ้นเข้าสู่ดัชนีมีผลบวกไม่มาก และนักลงทุนควรพิจารณาแนวโน้มผลประกอบการในอนาคตเป็นรายหุ้นมากกว่า
ภาพรวมกลยุทธ์ ระยะสั้นเพิ่มความระวังขึ้นต่อแล้วย่อ โดยเฉพาะบริเวณ 1386 จุด ระยะกลางยังมีโมเนตัมเป็นบวก โดยคงมุมมองอยู่ในช่วงหมุนจากหุ้นกลาง-เล็ก เพื่อกลับเข้าหุ้นใหญ่ หลังประมาณการกำไรบจ.น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยมีอัพไซด์ของรอบใหญ่ที่ 1,400+ จุด// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร PTTGC*, SPALI*, TIP*
แนวรับ 1,320 จุด / แนวต้าน : 1,350-1,386 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
ประเด็นการลงทุน
รัสเซียเตรียมจดทะเบียนวัคซีนโควิดตัวที่ 3 – ปูตินเผยรัสเซียเตรียมอนุมัติจดทะเบียนวัคซีนต้านโควิดเป็นตัวที่ 3 พร้อมย้ำวัคซีนต้านโควิดทุกตัวของรัสเซียมีประสิทธิภาพ
ยุโรปเริ่มเก็บภาษีสหรัฐ 4 พันล้าน ตอบโตกรณีหนุนโบอิ้ง – สหภาพยุโรปเตรียมใช้มาตรการตอบโต้การส่งออกของสหรัฐผ่านการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ครม.สรุปผลชิมช้อมใช้ หนุน GDP ราว 0.1-0.3% – ครม.สรุปผลผลการดำเนินงานมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ "ชิมช้อปใช้" ช่วงปลายปี 62 ถึงต้นปี 63 คาดหนุน GDP ไทยราว 0.1-0.3%
KTB – คลังคงให้หน่วยงานรัฐใช้บริการ KTB แม้สถานภาพแบงก์ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ เนื่องจากธนาคารยังคงเป็นส่วนหนึ่งของรัฐ ไม่ว่าด้วยการถือหุ้นของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 55.07%
ดัชนีเศรษฐกิจครัวเรือนปรับดีขึ้นเป็นเดือนที่ 4 – ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือน เดือน ต.ค.63 อยู่ที่ 39.5 ปรับตัวดีขึ้นจาก 38.1 โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากมุมมองที่ดีขึ้นต่อภาวะการจ้างงาน และรายได้ สอดคล้องกับระดับราคาสินค้าเกษตรที่ปรับสูงขึ้น
ประเด็นติดตาม: 12 พ.ย. – UK GDP 3Q20, US CPI / 16 พ.ย. – TH GDP 3Q20, China industrial production / 17 พ.ย. – US retail sales เดือน ต.ค.
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)