CBG - ซื้อ
มีตัวช่วยมากมาย
เรามองว่ามีปัจจัยบวกหลายประเด็นที่ช่วยหนุนกำไรปี FY21F ส่งผลให้ยอดขายสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง ในขณะที่ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่หนุนการเติบโตใหม่ เนื่องจากผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอัตรากำไรในการผลิตขวดแก้ว รวมถึงกำไรจากการจัดจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ยังมี Upside ให้กำไรปรับตัวขึ้นอีก (ซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ) จากสูตรการใช้น้ำตาลน้อยลง คงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 145 บาทต่อหุ้น
คาดแนวโน้มเชิงบวกในปี 2021
ฝ่ายบริหารตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายปี FY21F เติบโต 20.0% เทียบกับสมมติฐานของเราที่ 13.6% นอกจากนี้เรายังเห็นปัจจัยบวกหลายปัจจัยที่จะหนุนกำไรปี FY21F ได้แก่ (1) การประหยัดต้นทุนราว 100-150 ลบ. จากโรงงานบรรจุภัณฑ์และราว 200 ลบ. ต่อปีตั้งแต่ปี FY22F เป็นต้นไป (2) การประหยัดต้นทุนจาก 5MW solar rooftop ราว 15 ลบ. (3) ค่าใช้จ่ายภาษีที่ลดลงราว 50 ลบ. จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีของการลงทุนเครื่องจักรใหม่ และ (4) ค่าสปอนเซอร์ลดลงราว 60ลบ. หลังหมดสัญญากับเชลซีกลางปีหน้า สำหรับ 4Q20F คาดบริษัทสามารถประหยัดต้นทุนจากค่าสปอนเซอร์ได้ราว 45 ลบ. เพื่อช่วยลดผลกระทบในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา
ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่หนุนการเติบโต
การเติบโตของยอดขายราว 70%yoy ในปีนี้จากผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ (สุราข้าวหอมและผลิตภัณฑ์อื่น) จะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากการประหยัดจากขนาดและการใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมากขึ้นและทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้ด้วย ซึ่งบริษัทสามารถบันทึกกำไรทั้งจากการขายขวดและการจัดจำหน่าย โดยล่าสุดผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ คิดเป็นยอดขาย 90% ของรายได้จากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบุคคลอื่น (3rd party) และยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี FY21F
สูตรน้ำตาลน้อยเป็น Upside ช่วยสร้างการเติบโตของกำไร
ในขณะที่คู่แข่งในตลาดได้ปรับสูตรเครื่องดื่มชูกำลังเป็นสูตรน้ำตาลน้อยตั้งแต่ 1Q20 ทำให้ภาษีน้ำตาลลดลงจาก 1.0 บาทต่อลิตรเหลือ 0.1 บาทต่อลิตร ขณะที่ CBG จะยังมีโอกาสปรับสูตรเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อลดภาษีและต้นทุนวัตถุดิบก่อนตุลาคม 2021 ทั้งนี้น้ำตาลคิดเป็น 10% ของต้นทุนการผลิต ซึ่งหากบริษัทสามารถลดการใช้น้ำตาลและอัตราภาษีในระดับใกล้เคียงกัน จะช่วยเพิ่มกำไรได้ราว 270 ลบ.