เบียร์เก่าไป เบียร์ใหม่มา  สิงห์ คลอด “LEO No.8” เขย่าตลาดน้ำเมาสีอำพัน แสนล้าน!!

เป็นปีที่คึกคักสำหรับค่ายเบียร์เบอร์ 1 ของเมืองไทยจริงๆ เพราะตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน “บุญรอดบริวเวอรี่” ออกสินค้าใหม่หลายรายการ โดยเฉพาะเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เข้าทำตลาดหลายหมวด เช่น สิงห์ เลมอนโซดา บุกตลาดน้ำอัดลม น้ำดื่มผสมวิตามิน แบรนด์ เพอร์ร่า วิตามิน วอเตอร์ แม้จะเป็นสินค้าเดิม แต่เติมสีสันด้วยฉลากใหม่ๆ

มีสินค้าใหม่ แต่ที่ผ่านมา “สิงห์” ได้เขย่าพอร์ตโฟลิโอสินค้า โดยโละทิ้งแบรนด์ที่ไม่สร้างยอดขายและ “กำไร” ออกจากตลาด นั่นก็คือ “ยูเบียร์” ยกเลิกการผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 แต่ยังมีสินค้าสต๊อกเดิมวางจำหน่ายอยู่ 

ย้อนรอยการแจ้งเกิด “ยูเบียร์” ที่ได้รับการยกย่องถึงการแหวกขนบ เป็นขบถในการทำตลาดเบียร์แบบเดิมๆของสิงห์ เมื่อ 3 ปีก่อน เพื่อที่จะเตะตัดขา “เบียร์ช้าง” คู่แข่งตลาดกาลในสมรภูมิน้ำเมาสีอำพัน ทำให้การสร้างแบรนด์จะสลัดชื่อสิงห์สาราสัตว์ออกไป การทำให้แบรนด์แจ้งเกิดด้วยกระแสหรือไวรัลในระยะแรก ยังทำให้ผู้บริโภคอยากรู้จักสินค้า และตามหาผลิตภัณฑ์อย่างมาก 

ทว่า ความปังในระยะแรก อาจไม่สามารถการันตีการยืนอยู่ในตลาดระยะยาวสำคัญมาก ยิ่งกว่านั้นแบรนด์ต้องสร้างยอดขายและทำกำไรให้ “เติบโต” หากไม่ผ่านด่านเหล่านี้ การลงทุนแล้วผลตอบแทนไม่คุ้มค่า ย่อมต้องพิจารณาการกลืนเลือดทำตลาดต่อหรือพอแค่นี้ 

ผู้บริหารและทีมงานค่ายสิงห์ ครั้งปลุกปั้น "ยูเบียร์" 

ภูริต   ภิรมย์ภักดี   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ให้เหตุผลสั้นๆ “ยอดขายไม่ค่อยดี และลองทำตลาดมาหลายรอบแล้ว ก่อนตัดสินใจหยุดผลิตสินค้า” ทั้งนี้ เบียร์ในพอร์ตโฟลิโอของสิงห์ถือว่ามีค่อนข้างมาก ทั้งแบรนด์​เล็กใหญ่ สิงห์ผลิตและปลุกปั้นแบรนด์เอง รวมถึงนำเข้าเบียร์จากต่างประเทศมาจำหน่าย เช่น สิงห์ ลีโอ อาซาฮี จากญี่ปุ่น โคโรน่า จากประเทศเม็กซิโก เป็นต้น

ทั้งนี้ การออกสินค้าใหม่ สิงห์จะให้เวลาแบรนด์และสินค้าได้พิสูจน์ตัวเอง 2-3 ปี ว่าทำยอดขายและกำไรให้บริษัทได้ตามเป้าหมายหรือไม่

เมื่อถอดยูเบียร์ออกจากตลาด ภูริต ทิ้ง Hint ไว้ว่าสิงห์จะมีเซอร์ไพรส์ในช่วงปลายปี และล่าสุด ทั้ง “ภูริต” และผู้บริหารที่รับผิดชอบการทำตลาดเบียร์ ได้เผยสินค้าใหม่แกะกล่อง “LEO No.8” ออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ แม้ก่อนหน้านี้ราว 1 สัปดาห์ ภาพของสินค้าจะถูกเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์แล้วก็ตาม 

ทำไมต้อง LEO No.8? แหล่งข่าวจากค่ายสิงห์ เล่าว่า สิงห์มีการพัฒนาสูตรสินค้าจำนวนมาก แต่ "สูตรที่ 8" ปิ๊ง! โดนใจ "ภูริต" อย่างมาก จึงเคาะอนุมัติ! ทำตลาดได้ ส่วนผู้ปรุงเบียร์ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น "อิสระ ขาวละเมียด" Brewmaster ของบุญรอดบริวเวอรี่ และเป็นผู้รังสรรค์เบียร์ Singha Reserve ที่เพิ่งวางตลาดไปไม่นานด้วย  

"No.8" ยังเป็นเลขดีโดดเด่น สำหรับค่ายสิงห์ด้วย เพราะปี 2563 อาณาจักรเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยอายุ 87 ปี กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 88 แล้ว ซึ่งถือเป็นเลขที่มีความหมายดี เพราะเป็นตัวแทนความ "รุ่งโรจน์-รำ่รวย"

กลุ่มเป้าหมายของเบียร์ LEO No.8 เป็นใคร? หากมองพฤติกรรมผู้บริโภค ปฏิเสธไม่ได้ว่าแต่ละพื้นที่ ภูมิภาคของไทย ชอบดื่มสินค้าที่มีความแตกต่างกันทั้งรสชาติ ความเข้ม อ่อน ขณะที่ลีโอ นัมเบอร์ เอท ยังต้องการตอบโจทย์นักดื่มในพื้นที่ "ภาคเหนือ" และการเปิดตัวสินค้า นอกจากยึดพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแปลงบรรยากาศรับผู้บริโภคแล้ว "เชียงราย" เป็นหมุดหมายต่อไปที่สิงห์จะ ทำกิจกรรมสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค   

สำหรับลีโอ นัมเบอร์ เอท ยังคงจุดเด่นของแบรนด์ด้วยสีแดง เสือดาวหรือ LEOPARD แต่เพิ่มเติมคือ No.8 และชูความ “เข้ม” ขึ้น โดยเว็บไซต์ forum.thaivisa.com มีการนำเสนอภาพสินค้าพร้อมข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ และ LEO No.8 มี 2 ขนาด ขวด 620 มิลลิลิตร(มล.) แลกระป๋อง 490 มล.

ตลาดเบียร์ในประเทศไทยมีมูลค่าราว 2 แสนล้านบาท ปี 2563 ตลาดตกอยู่ในภาวะ “ติดลบ” เนื่องจากช่องทางจำหน่ายร้านอาหาร ผับ บาร์ สถานบันเทิงหรือ On Premise จำนวนมากถูกล็อกดาวน์ ปิดให้บริการในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด แม้ตลาดจะได้รับผลกระทบแต่ “ลีโอ” ยังครองความเป็น “ผู้นำ” ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 56% 

ทว่า การเขย่าตลาดช่วงโค้งสุดท้ายปี สร้างความคักตักให้ตลาดแน่นอน แต่เกมนี้ ต้องติดตามว่าผลตอบรับของ “ลีโอ นัมเบอร์ เอท” จะเป็นอย่างไร