CBG - ถือ

CBG - ถือ

วางแผนสำหรับการโตในสเตปถัดไป

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

lmpact

ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายปี 2564 ไว้สูงถึง +20-25%

บริษัทบอกว่ากำลังการผลิตใหม่จะทำให้รายได้จากยอดขายในประเทศและการส่งออกเพิ่มขึ้น 20-25%ในปี 2564 โดยจะเป็นการเติบโตจากเครื่องดื่มชูกำลัง, ผลิตภัณฑ์ใหม่ (C-Lock), ธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้า และกาแฟพร้อมดื่ม ซึ่งในส่วนของธุรกิจในประเทศ เราคาดว่าการจะทำให้ยอดขายโตได้ถึง 20%
ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผลิตภัณฑ์ใหม่ C-Lock กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่และรายได้ในส่วนนี้ก็เริ่มลดลง ในขณะเดียวกันธุรกิจส่งออกน่าจะโตได้ตามเป้ า เนื่องจากยอดส่งออกไปเมียนมาร์ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ยอดขายในประเทศของ CBG โต 14% ในงวด 9M63 (จากการเติบโต
ของธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าที่ +76% ในขณะที่เครื่องดื่มชูกำลังหดตัว 7% ในงวด 9M63) ส่วนการส่งออกโตได้ถึง 30% (เมียนมาร์ +140%, กัมพูชา +10%, เวียดนาม +20%, จีน -10%)

ลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต และการประหยัดต้นทุนช่วย margin เพิ่ม1.5%

บริษัทได้ลงทุนประมาณ 700 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิต, สร้างโรงงานบรรจุภัณฑ์ และติดตั้ง solar roof top ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 25-30% และช่วยลดต้นทุนค่าบรรจุภัณฑ์ และต้นทุนพลังงานลงได้ ซึ่งหากเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตทุกโครงการก็จะทำให้
ต้นทุนลดลง และ margin เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5% ทั้งนี้ เราคิดว่าการจะเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานบรรจุภัณฑ์ใหม่อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง และการประหยัดต้นทุนในส่วนนี้อาจจะไม่ได้ช่วยให้ margin เพิ่ม แต่จะช่วยรักษาสมดุลของ margin ในสถานการณ์ที่ต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น โดยเฉพาะ
อลูมิเนียมม้วน (aluminum coil)

บริษัทจะบันทึกสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน 4Q63

บริษัทได้เข้าลงทุนในเครื่องจักรใหม่มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาทในปี 2563 ซึ่งเข้าเกณฑ์หักภาษีได้ 1.5x ของมูลค่าการลงทุน ดังนั้น บริษัทจึงน่าจะบันทึกภาษีที่ประหยัดได้ประมาณ 50 ล้านบาทใน 4Q63 ซึ่งน่าจะทำให้กำไรปีนี้สูงกว่าประมาณการของเราประมาณ 3-4%

คงคำแนะนำ ถือ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 132 บาท (P/E ที่ 30x)

ผลประกอบการยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะสั้น จากการที่กลับมาส่งออกไปยังประเทศเมียนมาร์ในเดือนธันวาคม ในขณะที่ธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้า และยอดขายกาแฟพร้อมดื่มก็เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับการส่งออก โดยเฉพาะในตลาดเมียนมาร์ และเวียดนาม ทั้งนี้ ในประมาณการปีหน้าของเราใช้สมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 20%, GPM -180bps และ ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในอังกฤษลดลง ซึ่งเมื่ออิงจาก P/E ที่ 30x เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2564F เอาไว้ที่ 132 บาท และยังคงคำแนะนำ ถือ CBG

Risks

GPM ลดลง, เร่งยอดขายในจีนไม่สำเร็จ, การเติบโตของยอดขายใน CLMV สะดุด