การเงิน
PF - ถือ
งวด 3Q63 มีผลการดำเนินงานขาดทุนและคาดทั้งปียังขาดทุน
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
- งวด 3Q63 มีผลการดำเนินงานขาดทุน : งวด 3Q63 มีรายได้รวม9 พันล้านบาท ลดลง 35%YoY เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ฟื้นตัว 10%QoQ หลังคลาย lockdown รายได้หลักกว่า 92% มาจากธุรกิจอสังหาฯมีรายได้จากการโอนบ้านและคอนโดฯจำนวน 2.7 พันล้านบาท ลดลง 15%YoY แต่ฟื้นตัว 7%QoQ ธุรกิจโรงแรมมีรายได้ 162 ล้านบาท สัดส่วน 6% ของรายได้รวม ลดลง 78%YoY เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการควบคุมและจำกัดการเดินทางจึงมีลูกค้าเข้าพักน้อยลง แต่ที่ฟื้นตัว 84%QoQ เนื่องจากผ่านช่วง lockdown ใน 2Q63 รายได้ค่าเช่าและบริการซึ่งมีสัดส่วน 2%ของรายได้รวม ลดลง 24%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 8%YoY อัตรากำไรขั้นต้นรวม 18.8% ลดลงจาก 19.6% ใน 2Q63 และ 32.3% ใน 3Q62 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาฯลดลงอย่างมากเหลือ 27% จาก 34% ใน 3Q62 จากภาวะการแข่งขันสูงและโปรโมชั่นลดราคาเพื่อเร่งระบายสต๊อกสินค้า ส่วนธุรกิจโรงแรมมีผลขาดทุน -110% แย่กว่า 3Q62 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 28.7% แต่ฟื้นตัวจาก -234% ใน 2Q63 ที่เป็นช่วงเวลา lockdown โดยรวมแล้วทำให้ผลการดำเนินงานงวด 3Q63 ขาดทุน 276 ล้านบาทพลิกจากมีกำไร 222 ล้านบาทในงวด 3Q62
- คงคาดผลการดำเนินงานทั้งปี 2563 ตามเดิมที่มีแนวโน้มขาดทุน : ปลายงวด 3Q63 มี backlog เกือบ 2.9 พันล้านบาทซึ่งคาดจะโอนภายในปี 63 ราว 73% ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายคอนโดฯที่จะโอนใน 4Q64 ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 63 ยังถูกกดดันจากภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ชะลอตัวและธุรกิจโรงแรมที่ซบเซาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทั้งนี้ ผู้บริหารยังคงเป้าการดำเนินงานปี 63 ในส่วนของรายได้จากธุรกิจอสังหาฯ รายได้ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจให้เช่าตามเดิม โดยปรับลดเป้ารายได้จากการขายที่ดินจากเดิม 640 ล้านบาทเหลือ 350 ล้านบาท (อัตรากำไร 30% เป็นอัพไซต์จากประมาณการ) เราคาดว่าผลการดำเนินงานปกติในปี 63 ยังคงขาดทุนต่อเนื่องโดยคาดขาดทุนราว 723 ล้านบาท
- คาดปี 64 ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักยังขาดทุน : ปี 2564 บริษัทมีแผนเปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 18,495 ล้านบาทเป็นโครงการบ้านเดี่ยวทั้งหมด เป็นโครงการร่วมทุน 3 โครงการ เราประมาณการรายได้จากการขายรวม 1.8 หมื่นล้านบาท และด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นสู่ระดับ 7% คาดผลการดำเนินงานมีผลขาดทุนราว 928 ล้านบาท และมีอัพไซต์หากขายเงินลงทุนในโรงแรมรอยัล ออคิดซึ่งมีมูลค่าขายราว 5.5 พันล้านบาทโดยคาดว่าจะบันทึกกำไรพิเศษเบื้องต้นราว 2 – 2.5 พันล้านบาท
- เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน : ปลายเดือนก.ย. 63 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 02 เท่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.86 เท่า ณ ปลายปี 62 แสดงถึงฐานะการเงินอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับปลายปี 62 ทั้งนี้ผู้บริหารมีแนวทางสร้างความมั่นคงทางการเงินด้วยการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและลดค่าใช้จ่ายทางการเงินและการขายที่ดินเพื่อการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
- คงคำแนะนำ “ถือ” : ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective PBV ที่ระดับ 0.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี ซึ่งต่ำกว่า PBV ของอุตสาหกรรมที่ระดับ 0.96 เท่า ทั้งนี้ เราประเมินมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้นในปี 2564 ราว 1.53 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 2564 ราว 0.31 บาทต่อหุ้น ซึ่งใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน โดยยังมีอัพไซต์จากแผนขายที่ดินและเงินลงทุนใน ROH ที่คาดจะเกิดขึ้นภายในครึ่งแรกของปี 2564 เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ”