เอฟทีเอดันส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมไทย 11 เดือน ขยายตัว 5 %

เอฟทีเอดันส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมไทย 11 เดือน ขยายตัว 5 %

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  เผย  11 เดือน ปี 63  ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นม  ขยายตัว 5% มูลค่าส่งออกกว่า 516 ล้านดอลลาร์  โดย 94% เป็นการส่งออกไปประเทศคู่เอฟทีเอ ชี้ ผลิตภัณฑ์นมของไทยมีคุณภาพ และมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมนมในอาเซียน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.หรือ 11 เดือน ปี 63 พบว่า  มีมูลค่าส่งออกกว่า 516.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดย 94.7% เป็นการส่งออกไปประเทศที่มีความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ)  488.9 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 6%  โดยอาเซียนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่ง 84.5% ตามด้วย จีน 4.4% และฮ่องกง 4% สินค้าส่งออกสำคัญ คือ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต นม UHT นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม และนม ครีมที่ไม่เติมน้ำตาล

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยไปตลาดโลกเพิ่มขึ้น คือ อุตสาหกรรมนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยมีศักยภาพในการผลิตและมีคุณภาพที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน สินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยจึงเป็นที่นิยมและมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมนมในอาเซียน โดยในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2563 ไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวไปอาเซียนแล้ว 436.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 7% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด เช่น กัมพูชา 153.7 ล้านดอลลาร์  ฟิลิปปินส์ 72.1 ล้านดอลลาร์ สปป.ลาว 63 ล้านดอลลาร์  สิงคโปร์ 54 ล้านดอลลาร์  เป็นต้น

  160992471278

ทั้งนี้ เอฟทีเอ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันซึ่งภายใต้เอฟทีเอ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ประกอบด้วยสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง สินค้านมและผลิตภัณฑ์นมทุกรายการที่ส่งออกจากไทยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าแล้วจาก 14 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และฮ่องกง ส่วนอีก 4 ประเทศ ได้ลดภาษีนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมให้ไทยบางส่วนแต่ยังเก็บภาษีนำเข้าในบางสินค้า เช่น ญี่ปุ่น เก็บภาษีนำเข้านมที่ 21.3-25.5% โยเกิร์ต 21.3-29.8% เกาหลีใต้ เก็บภาษีนำเข้านม ครีมจืด และโยเกิร์ตที่ 28.8% อินเดีย ไม่เก็บภาษีนำเข้านมเปรี้ยวและโยเกิร์ตจากไทยแล้ว แต่ยังเก็บภาษีนำเข้าสินค้านมที่ 20-60% ส่วนเปรู เก็บภาษีนำเข้านม UHT และเครื่องดื่มที่มีนมผสมที่ 6% เป็นต้น

กรมฯ ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของเกษตรกรและผู้ประกอบการโคนมไทย และได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมปศุสัตว์ และชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย ในการจัดกิจกรรมสร้างความรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับตัวและเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในโลกการค้าเสรี ให้กับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโคนมในภูมิภาคต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมฯ มีโครงการ "โคนมไทยก้าวไกล ขยายการส่งออกได้ด้วยเอฟทีเอ" เพื่อสร้างโอกาสขยายการส่งออกและขยายตลาดให้กับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยได้เพิ่มขึ้น โดยมีแผนจะจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการโคนมแปรรูปของไทยกับผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้า ผู้แทนห้างค้าส่ง ค้าปลีก ในตลาดจีน