'โรจนะ'เมินผลกระทบโควิด ลุยตั้งนิคมฯเพิ่มรองรับ EEC

แม้ทั่วโลกจะเกิดวิกฤติโควิด-19 และเกิดการระบาดรอบ 2 ในไทย แต่ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมยังเชื่อมั่นขยายการลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

ล่าสุด บริษัทสวนอุตสาหกรรม โรจนะ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ และ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พื้นที่ 1,987.61 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 1,501 ไร่ และพื้นที่สาธารณูปโภคและแนวกันชน 486 ไร่ ใช้เงินลงทุนระบบสาธารณูปโภค 4,129 ล้านบาท

นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ ออกแบบภายใต้แนวคิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยมีพื้นที่สีเขียวและแนวกันชนเชิงนิเวศรอบโครงการ และนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดแล้วมาปรับปรุงคุณภาพใช้ประโยชน์ในโครงการเพื่อลดน้ำทิ้งออกนอกพื้นที่ รวมทั้งนำแนวคิดออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงานเพื่อลดการใช้พลังงาน และใช้พลังงานทดแทนเป็นทางเลือกเสริมพลังงานหลัก เพื่อลดมลพิษส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของชุมชนให้อยู่ร่วมยั่งยืน 

สำหรับแนวทางการดำเนินงานหลังจากนี้ จะทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งได้รับการอนุมัติก่อนจึงเข้าขั้นตอนการจัดสรรที่ดินและขออนุมัติผังแม่บท

นายภคิน ชลรัตนหิรัญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า โรจนะมีนิคมอุตสาหกรรม 9 แห่ง เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 6 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 3 แห่ง ได้แก่ นิคมฯโรจนะชลบุรี2 (เขาคันทรง) นิคมฯโรจนะ (แหลมฉบัง) และล่าสุดนิคมฯโรจนะหนองใหญ่ โดยบริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของ อีอีซี จึงได้มุ่งขยายการลงทุนในพื้นที่นี้ ซึ่งในบริษัทฯ ยังมีพื้นที่แลนด์แบงค์ในการพัฒนานิคมฯใน อีอีซี ได้อีกประมาณ 5 พันไร่ รวมทั้งยังได้ขยายพื้นที่นิคมโรจนะอยุธยา เพิ่มขึ้นอีก 800 ไร่ ทำให้มีพื้นที่นิคมฯอยุธยากว่า 1.5 หมื่นไร่

“โรจนะมั่นใจศักยภาพการดึงดูดการลงทุนของไทย โดยเฉพาะในอีอีซีเพราะมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสูงและรัฐบาลส่งเสริมเต็มที่" 

ขณะนี้มีนักลงทุนจำนวนมากสนใจมาซื้อพื้นที่ แต่เข้ามาไม่ได้จากปัญหาโควิด ซึ่งมั่นใจว่าหากโควิดคลี่คลายเปิดให้ต่างชาติเข้ามาได้จะเกิดการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยในช่วงต้นปี 2563 ได้ลดเป้าหายยอดขายพื้นที่จากเดิมที่ตั้งไว้ปีละ 1,000 ไร่ เหลือ 400-500 ไร่ แต่เมื่อถึงสิ้นปี 2563 ยอดขายพื้นที่ได้ 1,200 ไร่ สูงกว่าที่คาดไว้มาก ซึ่งส่วนใหญ่ลงทุนในอีอีซีและเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพราะผลกระทบจากโควิด-19 และสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐทำให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทยจำนวนมาก

ส่วนปี 2564 ตั้งเป้าหมายเพียง 500 ไร่ เพราะยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์โควิด-19 แต่คาดว่าสถานการณ์จะดีกว่าปี 2563 เพราะวัคซีนได้เริ่มมาแล้วและต่างชาติเริ่มทยอยฉีดวัคซีน ซึ่งหากเปิดประเทศได้จะมีนักลงทุนเข้ามาจำนวนมาก

น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า หลังจากพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ 4,129 ล้านบาท ประเมินว่าเมื่อรวมการลงทุนตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมจะมีมูลค่า 60,057 ล้านบาท เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น 15,014 อัตรา

การลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร อุตสาหกรรมเบาและอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องประดับ อุตสาหกรรมบริการ เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ การวิจัยและพัฒนา และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมในอีอีซี

นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่เป็นแห่งที่ 61 และเป็นนิคมอุตสาหกรรมล่าสุดที่จะเปิดให้บริการในอีอีซี เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S-Curve ตามนโยบายการพัฒนาอีอีซี ซึ่งใช้เวลาพัฒนาโครงการ 3 ปี ภายหลังจากที่ได้รับการประกาศเขตนิคมอุตสาหกรรมแล้ว และคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ปี 2567

“โครงการนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ รองรับนักลงทุนที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิตเป็นหลัก โดยโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่อีอีซี มีเครือข่ายเส้นทางคมนาคมที่สะดวก โดยอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดไม่ถึง 100 กิโลเมตร และห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 137 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาตร์ที่สำคัญสามารถเชื่อมโยงนิคมฯในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยองได้”