EPG - ซื้อ
เพิ่งเริ่มต้น
การผลิตรถกระบะขนาด 1ตันและยอดขายในประเทศหนุนกำไร EPG ใน 3Q และ 4QFY21 บริษัท TJM จะพลิกเป็นกำไรเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันและเร่งตัวขึ้น ธุรกิจฉนวนยางจะฟื้นตัวหลังวัคซีนมาถึงไทย ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยในการหนุนกำไรในปีหน้า คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไร FY21/22F 15%/16% และเป้าหมาย 10.5บาท
โมเมนตัมของกำไรจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ซึ่ง คิดเป็น 45% ของรายได้ EPG ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการผลิตรถกระบะ 1 ตันและปริมาณขายในประเทศ จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรใน 3Q และ 4QFY21 พื้นปูระกระบะ (bed liner) ซึ่งสร้างกำไรขั้นต้นสูงสุด (32% เทียบกับชิ้นส่วนรถยนต์เฉลี่ย 28%) มีปริมาณขายที่ดี โดน TJM จะฟื้นตัวต่อเนื่อง ยอดขายโต 15% เราคาดว่า TJM จะสร้างส่วนแบ่งกำไร 10ลบ.ใน 3Q ลดลงจาก 17.3ลบ.ใน 2Q เนื่องจากวันหยุด โดย TJM ได้รับเงินบรรเทาผลกระทบ Covid 11ลบ. จากรัฐบาลออสเตรเลีย เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมค้าทั้งหมดจะดีขึ้น qoq ที่ 42ลบ. จาก JV ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งทำให้กำไร EPG จะดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy ใน 3Q
ธุรกิจฉนวนยางในประเทศฟื้นตัวใน FY22F JV ในแอฟริกาใต้มีคำสั่งซื้อที่ดี
ยอดขายฉนวนวยางในประเทศลดลงใน 3Q เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ยอดขายในสหรัฐฯ (35% ของยอดขายฉนวนยาง) เติบโต 10% yoy หนุนผลิตภัณฑ์ยางสำหรับตู้เย็นและตู้แช่แข็งใหม่ เราคาดว่ายอดขายในประเทศจะฟื้นตัวในปี FY22F เมื่อวัคซีนมาถึงและกิจกรรมการก่อสร้างกลับสู่ภาวะปกติ ประเด็นบวกอีกอย่างคือ JV ชิ้นส่วนรถยนต์ในแอฟริกาใต้ (พื้นปูกระบะและชิ้นส่วนเหล็ก) มีคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่ง ทำให้ฝ่ายบริหารพิจารณาขยายกำลังการผลิต ซึ่งเป็นตลาดที่ดีเนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้ สร้างโรงประกอบที่นี่ ซึ่ง JV นี้อาจกลายเป็นบริษัทสร้างรายได้หลักใน 2-3 ปีข้างหน้า
ปรับคาดการณ์กำไรในปี FY21/22F ขึ้น 17%/16% และราคาเป้าหมายขึ้นสู่ 10.5บาท จาก 7.6บาท แนะนำ ซื้อ
เราปรับอัตราการใช้กำลังการผลิต 5% และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ 1.5% ในปี FY21/22F สู 29.2%/29.7% ซึ่งทำให้กำไรเพิ่มขึ้น 17%/16% การปรับตัวขึ้นนี้ยังไม่รวมธุรกิจยางฉนวน ซึ่งจะหนุนกำไรในปีหน้า เราปรับราคาเป้าหมายของเราขึ้นสู่ 10.5บาทต่อหุ้น เทียบเท่า 30x/24x FY21/22F PE และ อัตราเงินปันผลที่ 2.0%/2.2% ตามลำดับ