เร่งขยายสนามบินกระบี่
ทย.เร่งขยายท่าอากาศยานกระบี่ มั่นใจอาคารผู้โดยสารหลังใหม่แล้วเสร็จทันปี 2566 เพิ่มขีดความสามารถรองรับ 8 ล้านคนต่อปี ขณะที่งานลานจอดรับอากาศยานขนาดใหญ่แล้วเสร็จ หนุนการท่องเที่ยวฟื้นตัว
นายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ด้านโครงสร้างพื้นฐาน) หรือ ทย. เปิดเผยว่า ภายหลังได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 3 พร้อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1,2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์ และงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินและระบบไฟฟ้า ท่าอากาศยานกระบี่ พบว่าในภาพรวมงานมีความคืบหน้ามากกว่า 50% เป็นไปตามแผน และคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดภายในปี 2566
สำหรับโความคืบหน้าของโครงการ ประกอบไปด้วย โครงการงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบินมีความก้าวหน้า 100% โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ Code D,E และอากาศยานขนาดกลาง Code C ได้จำนวน 34 ลำในเวลาเดียวกัน
ส่วนโครงการงานก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 3 พร้อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1,2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์มีความก้าวหน้าสะสม 46.01% โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้กับท่าอากาศยานกระบี่จากเดิมรองรับผู้โดยสารได้ 1,500 คนต่อชั่วโมง เป็น 3,000 คนต่อชั่วโมง หรือจาก 4 ล้านคนต่อปี เป็น 8 ล้านคนต่อปี และอาคารจอดรถยนต์หลังใหม่และปรับปรุงลานจอดรถยนต์เดิมจะสามารถรองรับรถยนต์ได้สูงสุด 2,700 คัน
“ตอนนี้งานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินเราดำเนินการเสร็จแล้ว เหลือรอการตรวจสอบจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) คาดว่าอีก 2-3 เดือนจะแล้วเสร็จ”
ขณะที่งานอาคารผู้โดยสาร เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่ส่งผลให้เที่ยวบินระหว่างประเทศไม่ได้ทำการบิน ทย.จึงใช้โอกาสนี้ มอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาเข้าไปดำเนินการปรับปรุงอาคารได้ 100% เพื่อเร่งรัดให้เสร็จก่อนปี 2566 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ เพื่อพร้อมรองรับการท่องเที่ยวฟื้นตัวหลังโควิด-19 คลี่คลาย
ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งบุคลากรที่ต้องปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยาน ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องการโรคโควิด -19 อย่างเคร่งครัด เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะปฏิบัติหน้าที่ ล้างมือบ่อยๆ
ในส่วนของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในส่วนของผู้โดยและผู้ใช้บริการทุกท่าน ท่าอากาศยานกระบี่ ได้ตั้งจุดลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าออกของผู้โดยสาร ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม อีกทั้งยังคงทำการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส และต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
ทั้งนี้ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ มีวงเงินลงทุนรวมกว่า 3.7 พันล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินลงทุนก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 3 ปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1 และ 2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์ ในวงเงิน 2,923 ล้านบาท และสำหรับโครงการก่อสร้างลานจอดเครื่องบินพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ท่าอากาศยานกระบี่ วงเงิน 863 ล้านบาท