"ยูเอชจี" แก้เกมโควิดรอบ2 ลดราคารับกำลังซื้อหด

 "ยูเอชจี" แก้เกมโควิดรอบ2    ลดราคารับกำลังซื้อหด

"ยูเอชจี" พลิกกลยุทธ์รับมือโควิดรอบ2 ชูการทำงานแบบอไจล์เพิ่มสกิลจีเอ็มแต่ละโรงแรมทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ ดึงลูกค้าพร้อมลดราคาเหตุกำลังซื้อหดกว่าโควิดรอบแรก พร้อมงัดอีโคโนมีออฟสเกลลดต้นทุนประคองตัวฝ่าวิกฤติ

นายวุฒิพล ถาวรธวัช กรรมการผู้จัดการ ยูเอชจี ผู้พัฒนาโรงแรมและอาคารสำนักงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่รุนแรงกว่ารอบแรกส่งผลกระทบกับทุกธุรกิจโดยเฉพาะโรงแรม เนื่องจากกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าในประเทศเริ่มลดลงจากปีก่อน เพราะรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ มีการลดเงิน และเลิกจ้าง ดังนั้นจึงต้องปรับตัวด้วยการเปลี่ยนวิธีการทำงานในรูปแบบ อไจล์ (Agile)กระจายอำนาจการตัดสินใจเพื่อให้เกิดความสำเร็จที่รวดเร็ว เริ่มจากการเพิ่มทักษะการทำการตลาดออนไลน์ให้กับผู้จัดการโรงแรมในเครือ11 แห่งในกรุงเทพฯ อาทิ โรงแรม เดอะ ควอเตอร์ ลาดพร้าว บาย ยูเอชจี ,เดอะ ควอเตอร์ พร้อมพงษ์ บาย ยูเอชจี ฯลฯให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตลอดเวลา


โดยกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าชายหญิงที่มีอายุตั้งแต่20-45ปี ที่เข้ามาใช้บริการทั้งจากกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองขนาดใหญ่ที่เข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ อาทิ ประชุม มาโรงพยาบาล มาเที่ยว สามารถเลือกเข้ามาพักได้ในทำเลที่ต้องการ อาทิ ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก สาทร สีลม ลาดพร้าว เป็นต้น


นายวุฒิพล กล่าวว่า ปัจจุบันระดับราคาค่าบริการลดลงว่าปีที่ผ่านเหลือ600-700บาทต่อคืน จากปกติราคา1,900-2,500 บาท เนื่องจากกำลังซื้อคนลดลงการที่จะดึงดูดให้อัตราการพักเพิ่มขึ้นจำเป็นต้องอาศัยกลยุทธ์ราคาเข้ามาช่วยให้สามารถมีรายได้พอที่ประคองตัวอยู่รอดท่ามกลางวิกฤติ เพราะปัจจุบันแทบทุกโรงแรมราคาที่พักต่ำกว่า1,000 บาทต่อคืน แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมีความได้เปรียบในแง่ของการที่มีจำนวนโรงแรมหลายแห่งทำให้มีอีโคโนมีออฟสเกลและเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สามารถลดต้นทุนรายจ่ายลงได้มากกว่าโรงแรมที่ไม่มีสาขา

"ข้อดีของการเป็นโรงแรมขนาดกลางและเล็กที่ไม่ใช่เชนต่างชาติ คือ ไม่ต้องเสียค่าฟรีจากเชนเฉลี่ย10% ทำให้มีเงินเหลือมาใช้บริหารจัดการองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ "


นายวุฒิพล ระบุว่า หากในช่วงไตรมาส3-4 มีการคลายล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยจะทำให้ขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติ ได้อย่างที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประเมินไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาก่อนเกิดโควิดรอบสอง คาดว่า ปีนี้จะรายได้โต40% จากปีที่ผ่านมายอดขายติดลบ35% จากเป้าหมายที่วางไว้ก่อนเกิดโควิด-19