“มันฯ-ปาล์ม”ราคายังร่วงต่อ ปัจจัยผลผลิตออกสู่ตลาดสูง
เกษตรกรมันสำปะหลังเตรียมร้องพลังงานชะลอแผนปรับลดเอทานอล ดันใช้มันเส้นแทนโมลาส ลดพึ่งพาจีนปัจจัยทำราคาไม่โงหัว ขณะสศก.จับตาราคาปาล์มห่วงราคาดิ่งช่วงผลผลิตออก ขณะพาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกข้าวปีนี้ 6 ล้านตันท่ามกลางปัจจัยบาทแข็ง-การแข่งขันสูง
นายรังษี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมเรื่องกำหนดราคากลางโครงการประกันรายได้เกษตรกรมันสำปะหลังร่วมกับกรมการค้าภายใน วันนี้ (26 ม.ค.) จะหยิบยกเรื่องการผลักดันให้กระทรวงพลังงานประกาศเลื่อนกำหนดแผนลดใช้เอทานอลออกไป โดยให้คงแผนเดิมคือยกเลิกเบนซิน91 ในเดือนก.ค.และให้ E 20เป็นน้ำมันมาตรฐาน เพื่อคงดีมานด์เอทานอลในตลาดไว้ เพื่อเปิดช่องให้ผู้ผลิตเอทานอลนำมันเส้นเป็นวัตถุดิบผลิตแทนโมลาสจากน้ำตาลซึ่งปริมาณผลผลิตลดต่ำลงในปีนี้
หากกระทรวงพลังงานดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ก็จะช่วยให้ราคามันสำปะหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากปัจจุบันเฉลี่ย ที่ 2.20 บาท ต่อกิโลกรัม (กก.)ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนของชาวไร่ที่ 2.30 บาทต่อกก.
ทั้งนี้ ได้หารือพร้อมทำข้อตกลงร่วมกับสมาคมเอทานอลแล้วว่าจะกำหนดราคารับซื้อหัวมันสดที่ 2.50 บาทต่อกก. และมันเส้นราคา 7.50 บาทต่อกก.(เชื้อแป้ง25%) ปริมาณเบื้องต้น 5 ล้านตัน เพื่อนำไปผลิตเอทานอล ซึ่งแผนดังกล่าวจะสำเร็จได้ต้องได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน
“คงต้องร้องขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชยและรัฐมนตรีพลังงานพูดคุยกันเพื่อช่วยชาวไร่มันสำปะหลังเพราะช่วงนี้ราคาตกต่ำแม้จะมีความพยายามสร้างความร่วมมือให้ผู้ส่งออก ซื้อในราคาที่กำหนดแต่ในทางปฎิบัติจริง เราส่งออกไปจีนเป็นหลักและจีนรู้ว่าตอนนี้ผลผลิตออกมากจึงชะลอนำเข้า ไม่ส่งเรือมารับ ทำให้ราคาซื้อขายในตลาดจริงไม่ดีเท่าที่ควร”
สำหรับผลผลิตมันสำปะหลังจะออกสู่ตลาดสูงสุดช่วง ม.ค.-มี.ค. ราคารรับซื้อปัจจุบันเฉลี่ยที่ 2.20 บาทต่อกก. ทำให้รัฐต้องอุดหนุนตามโครงการประกันรายได้เฉลี่ย 0.30 บาทต่อกก. หรือ ตันละ 300 บาท
ด้านนางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) กล่าวว่า ราคาปาล์มน้ำมันในขณะนี้เริ่มปรับตัวลดลง หลังผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดมากขึ้น และจะออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือนมี.ค. ของทุกปี โดยราคาที่เกษตรกรได้รับเฉลี่ย สัปดาห์นี้อยู่ที่ 6.79 บาทต่อกก. ลดลงจากเดือน ธ.ค. ที่ราคาปาล์มดิบปรับเพิ่มขึ้น 7-8 บาทต่อกก.
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ราคาผลปาล์มดิบจะลดลง จึงต้องเตรียมรับมือไม่ให้ตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ประมาณ 4 บาทต่อกก. โดยเบื้องต้นรัฐบาลได้กำหนดประกันราคาไว้ที่ 4 บาทต่อกก.เช่นกัน ทั้งนี้จากการระบาดของโควิด- 19 ได้ส่งผลต่อการคมนาคมขนส่ง ทำให้ปริมาณการใช้ไบโอดีเซล ลดลงตามไปด้วย จะส่งผลให้การใช้ ซีพีโอ ปรับลดลงตาม
“เมื่อวิเคราะห์จากผลผลิตปาล์มดิบในปี 64 ได้ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 16.1 ล้านตัน จากเนื้อที่การผลิต5.8ล้านไร่ดังนั้นราคาปาล์มดิบโดยเฉลี่ยน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน คือ 4.27 บาทต่อกก."
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเกี่ยวกับเป้าการส่งออกข้าวไทยในปี 2564 ได้เห็นชอบร่วมกันกำหนดเป้าหมายหมายการส่งออกข้าวไทยที่ 6 ล้านตัน ท่ามกลางปัจจัย ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งสำคัญ เช่น อินเดีย และ เวียดนาม ซึ่งข้าวราคาถูกจึงเป็นที่ต้องการของผู้นำเข้าหลายประเทศ ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นระยะ ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังคงมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ส่งออก ประกอบกับผู้นำเข้าหลายประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง