CKP - ถือ
รอฤดูฝน
เราคาดว่ากำไร 4Q20F จะอยู่ที่ 40ลบ., ลดลง 92% yoy และ 95% qoq ซึ่งเป็นผลมาจากฤดูกาลและการประกาศปริมาณการผลิตไฟฟ้าเบื้องต้นลดลงของเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) คาดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรี (XPCL) ในเดือน ม.ค.จะลดลงต่ำกว่าระดับปกติ เนื่องจากจีนได้ลดปริมาณน้ำที่ปล่อยออกมากจากเขื่อน Jinghong จาก 1,904 CM/s สู่ระดับ 1,000 CM/s หรือลดลงกว่า 47% จากความเสี่ยงต่อกำไร 4Q20F และปริมาณน้ำที่ลดลงในม.ค. เราคงคำแนะนำ ถือพร้อมราคาเป้าหมายที่ลดลงที่ 5.00 บาทต่อหุ้น (จาก 5.25 บาท)
กำไร 4Q20F อาจลดลง 92% yoy สู่ระดับ 40 ลบ.
เราคาดกำไร 4Q20F ที่ 40 ลบ. ลดลง 92% yoy และ 95% qoq เป็นผลมาจากฤดูกาลและการประกาศปริมาณการผลิตไฟฟ้าเบื้องต้นลดลงของเขื่อนน้ำงึม 2 (NN2) ใน 4Q20F นี้เพื่อสำรองน้ำไว้ในในปี FY21F โดยปริมาณการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 106 GWh (-84% yoy, -74% qoq) และ NN2 จะมีผลขาดทุน 220 ลบ.ในไตรมาสที่ผ่านมา ในขณะที่การผลิตไฟฟ้าที่ไซยะบุรี (XPCL) อยู่ที่ระดับ 1,647 GWh ใน 4Q20F (-29% qoq) และคาดมีส่วนแบ่งกำไร 185 ลบ. นอกจากนี้เราคาดว่าการผลิตไฟฟ้าที่ BIC และ BKC จะทรงตัวจาก 3Q และมีกำไรที่ราว 75 ลบ.
ปริมาณน้ำที่ XPCL จะลดลงต่ำกว่าระดับปกติในเดือน ม.ค.
รัฐบาลจีนได้ทดสอบอุปกรณ์ในโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Jinghong ซึ่งตั้งอยู่บนแม่น้ำโขงตอนบน และจีนได้ลดการปล่อยน้ำที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Jinghong ดังกล่าวจาก 1,904 CM/s สู่ 1,000 CM/s หรือลดลง 47% ในช่วงระหว่างวันที่ 5 ถึง 24 ม.ค. ซึ่งเราคาดว่าประเด็นนี้จะกระทบการผลิตไฟฟ้าใน XPCL ในเดือน ม.ค
คงคำแนะนำ ถือ และปรับราคาเป้าหมายลงสู่ 5.00 บาทต่อหุ้น (จาก 5.25 บาท)
เราปรับคาดการณ์กำไร FY20F และ FY21F 55% และ 5% ตามลำดับสู่ 437 ลบ. และ 1.4 พันลบ. จากการปรับค่าสมมติฐานอัตราการผลิตไฟฟ้า (capacity factor) ของ NN2 ลง สำหรับปี FY20F จาก 40% สู่ 19% และปรับสมมติฐาน capacity factor ของ XPCL สำหรับปี FY21F จาก 61% สู่ 60% คงคำแนะนำ ถือ และปรับราคาเป้าหมายลงสู่ 5.00 บาทต่อหุ้น (จาก 5.25 บาท)