คอนโดหรูเร่งระบายสต็อก! แห่ขายพ่วงบัตรอีลิทเฟล็กซิเบิลวัน
วิกฤติโควิด-19 และมาตรการ “ล็อกดาวน์” ที่หลายประเทศนำมาใช้สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะคอนโดระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จากฐานกำลังซื้อหลักกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติหายไปจากตลาด ขณะที่ลูกค้าในประเทศชะลอการซื้อ
วิกฤติโควิด-19 และมาตรการ “ล็อกดาวน์” ที่หลายประเทศนำมาใช้สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อภาคธุรกิจและสภาพเศรษฐกิจเผชิญภาวะหดตัวอย่างรุนแรง หนึ่งในเซ็กเตอร์ที่ได้รับเอฟเฟกต์ คือ “อสังหาริมทรัพย์” โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จากฐานกำลังซื้อหลักกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติหายไปจากตลาด ขณะที่ลูกค้าในประเทศชะลอการซื้อแม้จะมีอำนาจการจับจ่ายแต่ไม่มีมู้ด!
ข้อมูลของ “คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล” ระบุว่า โครงการคอนโดกลางกรุงเทพฯระดับราคาขาย 10 ล้านบาทต่อหน่วย ขึ้นไป ปี 2563 ที่ผ่านมีจำนวน 16,033 หน่วย ขายไปแล้ว 11,355 หน่วย หรือ 70.8% เหลือขายทั้งหมด 4,678 หน่วย หรือ 29.2% ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในทำเลย่านสุขุมวิท สีลม สาทร เพลินจิต ชิดลม
พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ปี2564 ตลาดคอนโดที่ชะลอตัวคือกลุ่มลักชัวรี ส่วนคอนโดระดับไฮเอนด์ระดับราคาตั้งแต่ 5-10 ล้านบาทนั้น บริษัทจะร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจกับ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด นำโครงการคอนโดพร้อมอยู่ ใกล้รถไฟฟ้าหลากหลายแบรนด์ อาทิ พาร์ค ออริจิ้น, ไนท์บริดจ์, ดิ ออริจิ้น รวม 14 โครงการ เข้าร่วมโครงการ อีลิท เฟล็กซิเบิล วัน (Elite Flexible One) เพื่อรองรับนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีคุณภาพและมีกำลังซื้อสูง!
โดยนักลงทุนชาวต่างชาติที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ 14 โครงการดังกล่าว มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะได้รับสิทธิ์พิจารณาเป็นสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิท รับสิทธิประโยชน์ อาทิ วีซ่าเข้าออกไทย 5 ปี พร้อมเอกสิทธิ์และเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่กำหนด
“คอนโดที่เข้าร่วมส่วนใหญ่ทำเลกลางเมืองโซนสุขุวิทที่ต่างชาตินิยม ซึ่งการเข้าร่วมอีลิท ดีกว่าซื้อการ์ดมาทำเอง เพราะได้ราคาโปรโมชั่นมาช่วย ด้วยการลดราคาค่าแอพพลายอีลิทการ์ด หรืออาจจะไม่เก็บในบางเซ็กเมนต์ที่จำนวนปีน้อย โดยเงื่อนไขระบุว่า มูลค่า 10 ล้านบาท ได้ 5 ปี วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าชาวต่างชาติสนใจซื้ออสังหาฯ ได้อีกทางหนึ่ง”
ไม่ต่างจาก ชนินทร์ วานิชวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ระดับพรีเมียมเพื่อการลงทุน ระบุว่า โครงการ อีลิท เฟล็กซิเบิล วัน เป็นการช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ ภาพรวมในช่วงที่ตลาดยังไม่ฟื้นตัว และเป็นการช่วยเบาแบ่งภาระผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการที่เน้นขายนักลงทุนและเจาะลูกค้าต่างชาติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด เพราะลูกค้ากลุ่มนี้หายไป!
ก่อนหน้านี้ มีบริษัทอสังหาฯ หลายรายได้เข้ามาร่วมโครงการแล้ว อาทิ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ นำคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ 7 โครงการ ได้แก่ แอชตัน อโศก, แอชตัน อโศก-พระราม9, แอชตัน เรสซิเดนซ์ 41, แอชตัน สีลม, ไอดีโอ คิว วิคตอรี่, คิว ประสานมิตร และ ไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ และเศรษฐกิจให้ฟื้นกลับมาและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อ ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี
เอพี ไทยแลนด์ นำ 8 คอนโดในเครือเข้าร่วมโครงการรองรับนักลงทุนชาวต่างชาติที่สนใจลงทุนอสังหาฯ ในไทยและรับสิทธิประโยชน์จากโปรแกรมพิเศษนี้ ประกอบด้วย คอนโด พร้อมอยู่ได้แก่ 1.LIFE ลาดพร้าว 2. LIFE อโศก-พระราม 9 3.LIFE วัน ไวร์เลส 4.Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช 5.Aspire อโศก-รัชดา 6. Aspire รัตนาธิเบศร์ 2 และจะมีโครงการเข้าร่วมเพิ่มอีก 2 โครงการในเร็วๆ นี้ คือ 7.LIFE อโศก ไฮป์ และ 8. LIFE ลาดพร้าว แวลลีย์
ขณะที่ ไรมอน แลนด์ นำคอนโดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ร่วม 3 โครงการ ได้แก่ คอนโดระดับลักชัวรี The Lofts Silom ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% The River มียอดขายแล้ว 99% และ The Diplomat 39 มียอดขายแล้ว 96% มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ อาทิ สิทธิประโยชน์ด้านวีซ่าในการเข้า-ออกประเทศไทย เป็นเวลา 5 ปี (Privilege Entry Visa) รวมถึงเอกสิทธิ์ระดับวีไอพีต่างๆ เช่น บริการสนามบิน EPA & Premium Lane 12 ครั้งต่อปี, บริการสนามบิน ห้องรับรองผู้โดยสารขาออกและรถยนต์ไฟฟ้า 6 ครั้งต่อปี ผู้ประสานงานส่วนบุคคล เป็นต้น
โดยโปรแกรมพิเศษดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 และจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2565 คาดว่าโครงการจะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ายอดขาย 2 ปี ไว้ 200 ล้านบาท
นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการกอบกู้รายได้ในห้วงเวลาไม่ปกติที่ผู้ประกอบการต้องเก็บเกี่ยวทุกๆ โอกาสที่เข้ามาประคองธุรกิจ! ก้าวข้ามสถานการณ์ยากลำบากนี้