พาณิชย์จับตารัฐประหารเมียนมากระทบการค้าไทย
“จุรินทร์”สั่งการติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานเอกชนรับมือ ด้านกรมการค้าต่างประเทศ เผย ยังไม่กระทบการค้าชายแดน
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการเรื่องผลกระทบจากสถานการณ์ที่เมียนมาทั้งนี้ได้กำชับให้ สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศประจำประเทศพม่าติดตาม ใกล้ชิดโดยเฉพาะการค้า และด่านชายแดน และให้กรมการค้าต่างประเทศซึ่งดูเรื่องภาพรวมการค้าชายแดน ติดตามสถานการณ์พร้อมรายงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเตรียมหาช่องทางสื่อสารสำรองหากโดนตัดช่องทางสื่อสาร และเบื้องต้นให้ทางสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ประสานกับภาคเอกชนหากมีประเด็นที่ต้องแก้ไข และภาคเอกชนด้านชายแดนพม่าก็รับมือเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการเปิดด่านชายแดนล่าสุด พบว่า ปัจจุบันเมียนมากับไทย มีด่านการค้ารวม 21 จุด เปิดให้บริการอยู่ 3 จุด คือ ที่แม่สาย แม่สอด และระนอง เนื่องจากหลายด่านที่ไม่เปิดเพราะผลกระทบจากโควิด โดยในช่วงเช้าด่านที่แม่สายปิด แต่ต่อมาก็เปิดให้ขนส่งสินค้าได้ ส่วนที่แม่สอดและระนอง ยังเปิดให้มีการขนส่งสินค้าเป็นปกติ และจากการประสานงานกับทูตพาณิชย์ในเมียนมา สถานการณ์การนำเข้าส่งออก และกิจกรรมเศรษฐกิจภายในเมียนมายังเป็นปกติ ซุปเปอร์มาเก็ต ห้างสรรพสินค้า ยังเปิดขายได้แต่จะปิดเร็ว แต่ชาวเมียนมาก็เข้ามาซื้อสินค้าจำนวนมาก ธนาคารปิดทำการ และบางพื้นที่มีการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์ อย่างไรก็ตามคงต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน
สำหรับไทย-เมียนมา มีมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างกันในปี 2563 รวม 1.64 แสนล้านบาท เป็นการส่งออก 8.7 หมื่นล้านบาท นำเข้า 7.7 หมื่นล้าน มีสัดส่วน 21% ของการค้าชายแดน โดยด่านแม่สาย มีมูลค่าการค้า 1.2 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 35 ล้านบาทต่อวัน เป็นการส่งออก 1.1 หมื่นล้านบาท นำเข้า 1.4 พันล้านบาท ด่านแม่สอด มูลค่า 7.4 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 200 ล้านบาทต่อวัน เป็นการส่งออก 6.3 หมื่นล้านบาท นำเข้า 1 หมื่นล้านบาท และด่านระนอง มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 47 ล้านบาทต่อวัน เป็นการส่งออก 1.1 หมื่นล้านบาท นำเข้า 5.8 พันล้านบาท