'พฤกษา' พลิกแลนด์แบงก์คอนโด ลุยตลาดนัด
พฤกษา พลิกวิกฤติเป็นโอกาสปรับที่ดินชะลอสร้างคอนโดทำเล ประดิพัทธ์-รัชดาภิเษก ท่าพระ-พระราม 2-ท่าน้ำนนท์-ถ.สามัคคี ทดลองแซนด์บ็อกซ์ตลาดนัดจับคนรุ่นใหม่ หวังต่อยอดสู่มาร์เก็ตเพลส
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้นำที่ดินเปล่าสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมนำมาทำเป็นตลาดนัด หรือ Urban Street Market ใน 5 ทำเลทองย่านชุมชน ได้แก่ ประดิพัทธ์ ขนาด 3 ไร่ ติดถนนใหญ่, รัชดาภิเษก (ท่าพระ-ตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ) เนื้อที่ราว 4 ไร่, พระราม 2 ย่านโรงพยาบาลบางมด, ทำเลท่าน้ำนนท์ เดิมเป็นโรงหนังนครนนท์ นครอินทร์ และถนนสามัคคี เนื้อที่ 11 ไร่ ผู้สนใจสามารถจำหน่ายสินค้าทั่วไป อาหาร แฟชั่น งานศิลปะ ของสะสม ฯลฯ เหมือนตลาดนัดทั่วไป แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก โดยจะเริ่มเปิดที่ประดิพัทธ์ เดือน มี.ค. นี้
“Urban Street Market” เป็นธุรกิจใหม่ ที่เกิดจากไอเดียของคุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ร่วมกับทีมงานในรูปแบบทำ “Sandbox” เพื่อทดสอบโมเดลธุรกิจใหม่
“เราใช้ที่ดินสะสม (Land Bank) จากเดิมที่จะทำคอนโด แต่ชะลอออกไปก่อน 1-2 ปี เพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว และตลาดคอนโดยังอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย แทนที่จะทิ้งให้ว่างเปล่า หรือ ปลูกมะนาว ปลูกกล้วย ก็นำมาทดลองโมเดลธุรกิจใหม่ ซึ่งจะไม่มีผลกระทบระบบการทำงาน(operating system)และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อส่วนอื่น”
โดยค่าเช่าเริ่มต้น 4,500-6,000 บาทต่อเดือน เปิดบริการ 2 รอบ รอบเช้าตั้งแต่ 07.00-14.00 น. รอบเย็นตั้งแต่ 17.00-23.00 น. มีค่ามัดจำ 3,000 บาท หากเปิดทั้งรอบเช้าและเย็นราคา 8,000-10,000บาท โปรโมชั่นเดือนแรกลดครึ่งราคา
นายปิยะ ระบุว่า โมเดลนี้ไม่ใช่ธุรกิจหลักเป็นเพียงการทดลองระยะสั้นไม่เน้นเรื่องรายได้ แต่ถือเป็นแนวคิดในการทรานฟอร์มองค์กรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและพฤติกรรมลูกค้า เพราะปัจจุบันไม่มีถูกหรือผิดต้องกล้าที่ลองทำ อย่าคิดนานต้องเริ่มทำ “fail fast learn fast” เพื่อเรียนรู้ไปสู่การต่อยอดธุรกิจที่เชื่อมโยงระบบดิจิทัลผ่านช่องทางออนไลน์ เหมือนสตาร์ทอัพ ซึ่งที่ดินดังกล่าวจะถูกนำไปพัฒนาเป็นคอนโดเมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสม
"คงไม่คุ้มในแง่ของการลงทุนตลาดนัด แต่เป็นการทดลองโมเดลธุรกิจ หากเวิร์กก็พร้อมดำเนินการต่อ เป็นการลิงค์การขายผ่านช่องทางออนไลน์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นเจ้าของกิจการ ส่วนตลาดที่เปิดมานี้เป็นหน้าร้านให้เขาเข้ามาติดต่อกับลูกค้า โมเดลนี้เป็นเทรนด์อนาคต เสมือนมาร์เก็ตเพลสสำหรับคนรุ่นใหม่”
ในส่วนของค่าเช่าอนาคตอาจจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายต่อวันไม่ใช่แบบเหมาจ่ายรายวัน หรือรายเดือนเหมือนตลาดนัดทั่วไป เพราะไม่อยากให้ผู้ที่เข้ามาเช่ารู้สึกว่าต้องแบกภาวะต้นทุนมากจนเกินไป และจะขยายเชื่อมโยงไปสู่ช่องทางออนไลน์ทำให้รับรู้ถึงข้อมูลการซื้อขาย (transaction) รองรับรูปแบบการทำธุรกรรมที่ใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้มีงบประมาณจำกัดไม่สามารถใช้ช่องทางห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ได้ หรือเข้าไปแทรกผู้เช่าเดิมในตลาดนัดที่มีอยู่ได้เพราะไม่มีแผง