โควิดกระตุ้น'คลังสินค้า'โต ระบุบางประเทศแซงสำนักงานและศูนย์การค้า
ซีบีอาร์อี ชี้ผลจากโควิดหนุนคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าสมัยใหม่บูมการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซไทย เผยบางประเทศได้รับความนิยมมากกว่าสำนักงานและศูนย์การค้า พร้อมระบุกลุ่มนักลงทุนสนใจซื้อโรงงานมากกว่าเช่า
นายอาดัม เบลล์ หัวหน้าแผนกพื้นที่อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคไทยปรับตัวเข้าสู่และเศรษฐกิจดิจิทัลเร็วขึ้น ซึ่งผลักดันให้เกิดความต้องการพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าสมัยใหม่ (Modern Logistics Property - MLP) ในประเทศไทย มากกว่า 400,000 ตร.ม. ซึ่งจะเข้าสู่ตลาดภายในปี 2564 โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบสร้างขึ้นตามความต้องการเฉพาะ (Built-to-Suit)ตามความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาลงทุนด้านซัพพลายเชน โดยเฉพาะผู้ผลิตในจีนหลายรายที่ย้ายฐานการผลิตมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะค่าใช้จ่ายที่ต่ำ
นอกจากนี้กลุ่มนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจซื้อโรงงานมากกว่าเช่าโรงงานมากขึ้นเพราะต้องการควบคุมดูแลสถานที่ได้มากขึ้น ขณะที่ผู้พัฒนาโรงงานหลายรายชะลอการสร้างโรงงานสำเร็จรูป (Ready-Built Factory - RBF) แบบสร้างเสร็จก่อนขายเพื่อรอดูสถานการณ์ ต้องยอมรับว่าผลจากโควิดเป็นอุปสรรคในแง่ของการพิจารณาทำให้ชะลอการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามแนวโน้มความต้องการพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้ารุ่นใหม่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทย และคาดว่าอสังหาริมทรัพย์ด้านโลจิสติกส์จะกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยในบางประเทศได้รับความนิยมมากกว่าสำนักงานและศูนย์การค้า ความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นและในหลายพื้นที่ยังรวมถึงค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คลังสินค้าได้รับความสนใจ