สวทช. เปิดแล็บเทสต์มาตรฐาน 'กัญชา-กัญชง'
กระทรวง อว. สวทช. เปิดแล็บเทสต์มาตรฐานกัญชา-กัญชง "เพ ลา เพลิน" จ.บุรีรัมย์ ประเดิมส่งทดสอบสารสำคัญคัดเกรด-เพิ่มมูลค่า
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดแถลงข่าว การลงนามการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิเคราะห์ทดสอบกัญชา เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถวิสาหกิจชุมชน ระหว่าง วิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน (วพพ.) จ.บุรีรัมย์ กับ ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. หรือ NCTC (NSTDA Characterization and Testing Center) โดยมี นายณฏฐพล วุฒิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. และนางศศิการ ล้อจิโรภาส ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน จ.บุรีรัมย์ ร่วมลงนาม ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิเคราะห์ทดสอบ "กัญชา" ในการทดสอบหาปริมาณกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ให้ได้มาตรฐานสากล ณ ชั้น 1 Tower-C ฮออล์ อาคาร INC 2 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
นายณฏฐพล วุฒิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. กล่าวว่า ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ (NCTC) ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและส่งเสริมงานบริการวิเคราะห์ทดสอบ ด้านวิทยาศาสตร์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ควบคุมระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยให้บริการวิเคราะห์ทดสอบสนับสนุนกลุ่มงานอุตสาหกรรมทั้งในและนอกประเทศ สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพ (National Quality Infrastructure) โดยศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ หรือ NCTC นั้นเป็นผู้ให้บริการวิเคราะห์ทดสอบตามวิธีมาตรฐานสากล ได้จัดตั้งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทดสอบด้านกัญชา กัญชง สารสกัดและผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง (Cannabis Analytical Testing Center) หรือ CATC เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการกำหนดมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า สนับสนุนการทำวิจัยและพัฒนาสินค้ามูลค่าสูงให้กับทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยดำเนินงานภายใต้ระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ ISO/IEC17025 มาตรฐานสากล ในการ ให้บริการวิเคราะห์ทดสอบอย่างครบวงจรเกี่ยวกับกัญชา กัญชง สารสกัดและผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง ทั้งในเชิงคุณภาพ เชิงปริมาณและตรวจสอบความปลอดภัย เช่น การหาปริมาณโลหะหนัก ยาฆ่าแมลง ตัวทำละลายตกค้าง สารพิษจากเชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ที่ปนเปื้อน รวมถึงการหาปริมาณกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ให้ได้ค่ามาตรฐาน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์และกำหนดราคาสินค้าได้ตามมาตรฐานที่กำหนด
ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนามครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ให้ผ่านการวิเคราะห์ทดสอบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ส่งเสริมความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลกของผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ให้สามารถจำหน่ายและควบคุมคุณภาพได้เทียบเท่าหรือในระดับเดียวกับผลิตภัณฑ์สากล อีกทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ช่วยให้กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และภาคอุตสาหกรรม สามารถเข้าถึงการวิเคราะห์ทดสอบที่มีคุณภาพภายในประเทศ ตลอดจนควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์และกำหนดราคาสินค้าได้อย่างชัดเจนและเป็นมาตรฐาน ส่งผลให้ประชาชนในประเทศไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาเหมาะสม ปลอดภัย และได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานในระดับสากล รวมถึงได้ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีขั้นสูงในการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง ในด้านต่างๆ อาทิ การกระจายตัวของสารสำคัญ การหาชนิดและปริมาณสารสำคัญที่ส่วนต่างๆ ของพืชกัญชาและกัญชง เป็นต้น
ด้าน นางศศิการ ล้อจิโรภาส ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การลงนามร่วมกันครั้งนี้ เพื่อเป็นศูนย์กลางรับส่งวัตถุดิบกัญชาในการนำไปวิเคราะห์และทดสอบประสิทธิภาพ หาปริมาณกลุ่มสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ให้ได้ค่ามาตรฐาน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทกัญชาให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลจากเกษตรกร และวิสาหกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยแรกเริ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างรายได้จากการพึ่งพาตนเองและเพื่อประโยชน์สุขของคนในชุมชน จากการเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตร เพื่อผลิตสินค้าจากสมุนไพรต่างๆ การถ่ายทอดความรู้ของสมุนไพรเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน อีกทั้งสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกสมุนไพรเพื่อให้ได้มาตรฐานสากลและเพิ่มมูลค่าสินค้าแก่ชุมชน ต่อมาได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในวิสาหกิจฯ เพลาเพลิน ที่ได้ทำหน้าที่ปลูกกัญชาทางการแพทย์ ด้วยการทำการเกษตรแบบมาตรฐานสูง และใช้รูปแบบโรงเรือนระบบปิด โดยได้รับความร่วมมือที่ดีจากพันธมิตรภาคเอกชน และภาครัฐบาล จนทำให้สามารถควบคุมการปลูกกัญชาที่ใช้ในระดับการแพทย์ได้ค่าสารสำคัญคงที่ และนำไปใช้ผลิตเป็นยำรักษาทางการแพทย์ได้ และเป็นการยกระดับเพิ่มมูลค่าของพืชพันธุ์สมุนไพรด้านการเกษตรได้ดีเช่นกัน
“กลไกสำคัญที่ทำให้เราได้รับความเชื่อถือในระดับการแพทย์ที่ผ่านมานั้นคือการตรวจวิเคราะห์ต่างๆ ร่วมกับระบบการปลูกที่ดี ตัวอย่างเช่น มีการตรวจสอบตั้งแต่ดินปลูกที่เราต้องมั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมี หรือสารโลหะหนักที่ต้นกัญชาจะสามารถดูดซับได้ และมีแร่ธาตุที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของสายพันธุ์ที่เราปลูก จวบจนถึงการตรวจสอบค่าสาระสำคัญ จากรอบการเก็บเกี่ยวเพื่อนำไปใช้ผลิตเป็นยาของทางโรงพยาบาล และตรวจสอว่าไม่มีค่าสารอันตรายเจือปนในกัญชาที่เราเก็บเกี่ยว เพื่อส่งไปใช้ทำยาได้”
นางศศิการ กล่าวต่อว่า ในระดับต่อไปที่จะมีการนำส่วนอื่นๆ ของกัญชา และกัญชงไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรมนั้น ขั้นตอนการตรวจวิเคราะห์เหล่านี้จึงจำเป็นต่อวิสาหกิจฯ อย่างมากในการเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งหลายวิสาหกิจ และกลุ่มธุรกิจขนาดย่อยเกี่ยวกับ อาจประสบปัญหาที่การเข้าถึงการตรวจวิเคราะห์เหล่านี้ได้ยาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง และมีแล็บตรวจในประเทศค่อนข้างจำกัด ดังนั้นวิสาหกิจเพลาเพลินฯ จึงเล็งเห็นว่าการร่วมมือกับทาง ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. ครั้งนี้จะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อภาคต้นน้ำการปลูก และภาคการเกษตร เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านการเกษตรของไทยให้สูงขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้