ธุรกิจ 'ออนเซ็น' เมืองกรุงใจชื้น! กทม.ไฟเขียวรีโอเพ่น ชี้ชัดไม่เข้าข่ายอาบอบนวด
“กทม.” ไฟเขียวเปิดให้บริการ “สปาออนเซ็น” แล้ว หลังชี้แจงทำความเข้าใจว่าเป็นสปา ไม่เข้าข่ายอาบอบนวด!
นายกรด โรจนเสถียร นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ยกเลิกคำสั่งปิดให้บริการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ให้บริการออนเซ็นเป็นการชั่วคราวแล้ว นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจนี้ที่สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง หลังต้องหยุดให้บริการไปนานหลายเดือน
ล่าสุดทางสำนักอนามัย กทม. ได้ทำหนังสือเวียนถึงผู้อำนวยการเขต กทม.ทั้งหมดแล้ว เพื่อทำความเข้าใจ พร้อมกำชับให้ทุกสถานประกอบการในลักษณะนี้ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 10 แห่งในกรุงเทพฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
“นับเป็นข่าวดีสำหรับสถานประกอบการประเภทนี้ หลังจากที่ผ่านมาสมาคมได้พยายามอธิบายให้กับทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ชุดเล็ก รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข และ กทม.รับทราบว่า ไม่ได้เป็นแบบอาบอวบนวด ประกอบกับที่ผ่านมาธุรกิจออนเซ็นก็ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.มาตลอด คำสั่งคลายล็อคนี้น่าจะทำให้ผู้ประกอบการออนเซ็นกลับมามีรายได้เลี้ยงตัวเอง หลังจากต้องหยุดไปนานและมีภาระค่าใช้จ่ายสูง”
นายกรด กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้สมาคมฯได้หารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับลักษณะการให้บริการและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 รวมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการสปาที่มีการให้บริการออนเซ็นในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 แห่ง ได้แก่ ปัญญ์ปุริ เวลเนส ออนเซ็น แอนด์ สปา, ยูโนะโมริ ออนเซน แอนด์ สปา และเล็ทส์ รีแลกซ์ สปา ทองหล่อ โดยสถานประกอบการทั้ง 3 แห่งได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีออนเซ็นเป็นหนึ่งในบริการของสถานประกอบการ
สำหรับการให้บริการ พบว่าเป็นไปตามระบบสาธารณสุข คือ อุณหภูมิของน้ำอุ่นแต่ละบ่ออยู่ระหว่าง 37-42 องศาเซลเซียส และน้ำเย็นประมาณ 16-17 องศาเซลเซียส แต่ละบ่อใช้เวลาแช่ตัวประมาณ 5-6 นาที น้ำในบ่อมีการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน มีการจัดมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิ ร่างกาย แอลกอฮอล์เจล สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละบ่อไม่ให้แออัด และเว้นระยะห่างระหว่างการแช่น้ำในบ่ออย่างน้อย 1–1.5 เมตร