ปตท. ส่องโอกาสบุก EV Value Chain เสริมแกร่งพอร์ตรายได้ธุรกิจใหม่

ปตท. ส่องโอกาสบุก EV Value Chain เสริมแกร่งพอร์ตรายได้ธุรกิจใหม่

กลุ่ม ปตท.ยักษ์ใหญ่ครอบครองอาณาจักรธุรกิจพลังงานของไทย กำลังปรับพอร์ตธุรกิจรองรับเทรนด์ส่งเสริมการใช้ยานยนต์สมัยใหม่ หวังปั้นเป็นธุรกิจใหม่เสริมรายได้ในอนาคต

ทิศทางการใช้พลังงานของโลกในยุคปัจจุบันที่มุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ไม่สามารถหลีกหนีการใช้พลังงานจากไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนได้ โดยเฉพาะการพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ ที่ต้องออกแบบให้สอดรับกับทิศทางของโลก ดังนั้น กระแสของยานยนต์ไฟฟ้า(EV Car) กำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ยานพาหนะเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆบนโลกใสนอนาคตมากขึ้น

บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ยักษ์ธุรกิจพลังงานครบวงจรของไทย ที่ครอบคลุมธุรกิจต้นน้ำถึงปลายน้ำ และปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ธุรกิจน้ำมัน เบอร์ 1 ของประเทศ จำเป็นต้องเร่งปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในอนาคต

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT มองว่าเทรนด์ของพลังงานในอนาคต จะมุ่งไป 2 เรื่อง คือ GO GREEN และ GO ELECTRIC ซึ่งในช่วงของการเปลี่ยนผ่านพลังงานดังกล่าว ก็เชื่อว่า ก๊าซธรรมชาติ จะยังเป็นพลังงานที่สำคัญ และกลุ่ม ปตท.จะรุกเข้าสู่ Gas Value Chain โดยมีเป้าหมายว่า ปตท.สผ.จะเพิ่มสัดส่วนพอร์ตก๊าซฯ เป็น 80% ในระยะยาว จากปัจจุบัน อยู่ที่ 62% ซึ่งจะเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนโฟกัสเข้าไปในแหล่งก๊าซฯมากขึ้น

ส่วน ปตท.เองนอกจากต่อยอดการเติบโตในธุรกิจหลักอย่างธุรกิจปิโตรเคมีแล้ว ก็จะเร่งพัฒนาและขยายธุรกิจใหม่ โดยรุกเข้าสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงตามทิศทางโลกใน 6 ด้าน ได้แก่ 1.New Energy 2.Life Science 3.Mobility & Lifestyle 4.High Value Business 5.Logistics & Infrastructure และ6.AI & Robotics Digitalization ซึ่งที่ผ่านมา ปตท.ได้จับมือพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อมุ่งเข้าสู่ธุรกิจจพลังงานแห่งอนาคต เช่น การพัฒนา EV Changer Platform และEV Station, การจัดตั้งบริษัทSWAP & GO เพื่อลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่สำหรับยายนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเริ่มเข้ามาทำตลาดในเดือน มี.ค.นี้

“การบริหารจัดการพอร์ตฟอลิโอของ ปตท. ปัจจุบันออกแบบได้ดีพอสมควร เรายังเป็น Core Energy แต่จากนี้ถึงปี 2030 พอร์ตเรา20-23% จะเป็น New Energy และ New Frontier ตามกระแสโลก ซึ่งส่วนนี้จะเข้ามาเสริมรายได้ให้กับพอร์ตของปตท.มั่นคงขึ้นในอนาคต” 

161486721756

นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม ปตท. ระบุว่า โลกในยุคปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้นต่อเนื่อง และ EV ก็เป็นเส้นทางหนึ่งที่กลุ่มปตท.จะขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า เพราะโลกกำลังเปลี่ยนจากรถที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ไปสู่รถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ กลุ่มปตท.กำลังโฟกัสยานยนต์ไฟฟ้า และดูว่ามีองค์ประกอบใดบ้าง เช่น มอเตอร์ แบตเตอรี่ และการขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติต่างๆ

รวมถึง การมีสถานีอัดประจุไฟฟ้า(Charging Station) เพื่อปูพรมใช้รถ EV สามารถชาร์จไฟฟ้าได้อย่างสะดวก นอกเหนือจากการชาร์จที่บ้านแล้ว ระหว่างทางก็สามารถชาร์จไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจ ซึ่งปตท. ก็เริ่มมีการจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ในบริเวณห้างสรรพสินค้าแล้วประมาณ 2-3 แห่ง และภายในปีนี้ ก็มีแผนจะติดตั้งให้ครบ 100 แห่ง

ส่วนเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า(EV Car) ก็มีการพูดคุยกับผู้ผลิตรถEV ว่าจะเชิญมาลงทุนในไทยได้อย่างไรบ้าง และมีองค์ประกอบใดบ้างที่จะเข้ามาสนับสนุนให้EV Car เข้ามาประกอบในประเทศไทย เช่น เรื่องของแบตเตอรี่ ซึ่งทางกลุ่ม ปตท.ก็มีการลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน (Energy Storage Unit) ของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ล่าสุดได้มีการเปิดตัวแบตเตอรี่ G-Cell ที่ใช้เทคโนโลยี Semi Solid เซลล์แรกของประเทศไทย โดยการใช้เทคโนโลยีการผลิต 24M จากสหรัฐ เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะพร้อมดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ (Start of Regular Production) กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์-ชั่วโมง ภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2564

อีกทั้ง กำลังดูว่า ชิ้นส่วนรถยนต์ จะสามารถใช้วัสดุที่มีมูลค่าสูง(high value material) ที่มาจากกลุ่มโรงกลั่นฯของปตท.ได้อย่างไร จะผลิตชิ้นส่วนตัวถังอะไรได้บ้าง รวมถึง ปตท.เองก็เข้าไปดูเรื่องของสตาร์ทอัพใหม่ๆ เช่น เรื่องของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ก็ได้ใช้งบประมาณเข้าไปช่วยสนับสนุนการพัฒนา

นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดตั้งบริษัท อัลฟ่า คอม จำกัด เพื่อรองรับการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ตามกลยุทธ์ New S-Curveเช่น การตั้งบริษัท SWAP & GO ซึ่งขณะนี้กำลังทดสอบกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้สามารถ Swap หรือการแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบการสลับแบตเตอรี่ ด้วยการถอดเอาแบตเตอรี่ออก แล้วใส่แบตเตอรี่ลูกใหม่เปลี่ยนพร้อมใช้งานทันที โดยไม่ต้องจอดรอชาร์จไฟฟ้า

“กลุ่ม ปตท.เราจะมองให้ครบChainEVซึ่งยังมีอีกหลายเรื่องที่เตรียมจะเข้าไปลงทุน”

161486708481

ขณะที่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้ จัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อดำเนินการเข้าลงทุนในบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. (“AXXIVA”)ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่ โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตจาก24M Technologies Inc. (“24M”) มีมูลค่าการลงทุนประมาณ500ล้านบาท คิดเป็นการลงทุนในสัดส่วนประมาณ 11.1% ของEquity Interest ทั้งหมดของ AXXIVA

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ระบุว่า เป้าหมายการเข้าระดมทุนของ AXXIVA ในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ Semi-solid ระยะที่1ที่ประเทศจีน มีกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh)ต่อปี คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปลายปี2564 และเริ่มดำเนินการผลิตแบตเตอรี่เชิงพาณิชย์ภายในต้นปี2565 เพื่อป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีน เช่น Chery New Energy Automobile ซึ่งเชื่อมั่นในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของแบตเตอรี่ Semi-solid พร้อมร่วมพัฒนาไปกับ AXXIVA ทั้งนี้ AXXIVA ยังมีแผนขยายกำลังการผลิตต่อไปในอนาคตเพื่อรองรับความต้องการใช้แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป

เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่ม ปตท.เปิดตัวโครงการG-Box ระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System) ขนาด 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง(kWh) นำร่องติดตั้งในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาหนองแขม รองรับ EV Station พร้อมโซลูชั่นจ่ายไฟฟ้าครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ ภายในสถานีมุ่งสู่การบริหารจัดการพลังงาน เพื่อสร้างเสถียรภาพ และลดต้นทุนค่าไฟฟ้า รองรับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า

161486716369

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือOR ระบุว่า OR ได้นำ G-Box ซึ่งเป็นระบบ Battery Energy Storage ของ GPSC มาใช้ในสถานีบริการร่วมกับสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อให้สถานีบริการพร้อมสำหรับให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ได้อย่างมีเสถียรภาพมากที่สุด โดยได้ทดลองนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องชาร์จไฟฟ้าEV Station รูปแบบ Quick Charge กำลังไฟ 50 กิโลวัตต์ (kW) ที่ให้บริการในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาหนองแขม ซึ่งหากการทดลองใช้ได้ผลดี OR พร้อมขยายผลในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station อื่นๆ โดยมีเป้าหมายจะติดตั้งให้ครบ 100-200 แห่งภายในปีหน้า

ทั้งนี้ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station ได้นำบริการ EV Station เข้ามารองรับความต้องการเทรนด์รถ EV ที่จะกำลังเป็นที่สนใจของผู้บริโภคอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ใช้รถ EV อุ่นใจในการเดินทาง รวมถึงเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้รถEV เพื่อปรับรูปแบบการให้บริการให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้รถEV มากขึ้นอีกด้วย

ปัจจุบัน OR เปิดให้บริการEV Station แล้วรวม 30 สถานี ทั้งในรูปแบบ Normal Charge และ Quick Charge รวมทั้งได้มีการจัดทำ Application ‘EV Station’ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคอย่างครบวงจร นอกจากนี้ OR ยังพร้อมแสวงหาโอกาสในการขยายจุดชาร์จในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงร่วมมือกับคู่ค้าอื่นๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศการใช้EV ในประเทศไทยให้สมบูรณ์ และตอบโจทย์ผู้ใช้รถEV ให้ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากที่สุด

161486718426

สำหรับการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท.ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี2564-2568) มีแผนลงทุนในวงเงินรวม 850,573 ล้านบาท (ไม่รวมโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการลงทุนหรือแสวงหาโอกาสในการลงทุน) และจัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้า จำนวน 804,202 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง สร้างความเข้มแข็งและความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาเศรษฐกิจไทย