ชีวาทัยเบรกโครงการใหม่ เร่งระบายสต็อก ของเก่า
ชีวาทัย เผยแผนปี 64 เบรกเปิดโครงการใหม่ เดินหน้าระบายสต็อก 3.5 พันล้าน เล็งร่วมทุน 2-3 ราย ตั้งเป้ารายได้แตะ 2.5 พันล้าน ยอดรอโอน 2.17 พันล้าน
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2564 ถือเป็นปีแห่งการฟื้นตัว ประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ปีนี้ บริษัทจะเน้นระบายสต็อก เพื่อเก็บกระแสเงินสดกลับมาทำให้ “ตัวเบา” จึงไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ เน้นการขยายเฟสใหม่ พร้อมกันนี้จะเดินหน้าสร้างการรับรู้และส่งเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ผ่านงานบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
ขณะเดียวกัน พิจารณาโอกาสและศึกษาความเป็นไปได้เพื่อพัฒนาโครงการร่วมทุนอย่างต่อเนื่อง 2-3 ราย เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง รวมทั้งมองหาที่ดินสำหรับพัฒนา 3 โครงการใหม่ มูลค่า 2,830 ล้านบาท เป็นการพัฒนาบ้านเดี่ยวมูลค่า 1,600 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 2 โครงการ มูลค่า 1,230 ล้านบาท
โดยช่วงไตรมาสแรกนี้ บริษัทจะมีการรับรู้รายได้ ประมาณ 500 ล้านบาท จากโครงการ ชีวาทัย เรสซิเด้นท์ ทองหล่อ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม 130 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท ที่สร้างเสร็จในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา และปลายเดือน มี.ค.นี้ โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส 1 เป็นคอนโดมิเนียม 435 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท จะสร้างเสร็จและเริ่มทยอยส่งมอบเช่นกัน
นอกจากนี้ มีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) ในมือรวมมูลค่า 3,500 ล้านบาท จาก 15 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยหลักยังคงเป็นสินค้าจากโครงการคอนโดมิเนียม โดยบริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมในปี 2564 ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,643 ล้านบาท จากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่อง
“ดีมานด์ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 นี้ ขณะที่แนวโน้มความต้องการในตลาดแนวราบก็มีเพิ่มขึ้นเช่นกัน คาดว่า ครึ่งปีหลังจะดีขึ้น”
สำหรับ ปี 2564 เป็นปีที่ “ชีวาทัย” ก่อตั้งครบ 13 ปี บริษัทจึงได้จัดแคมเปญฉลองครบรอบ 13 ปี ตลอดทั้งปี โดยลูกค้าที่ทำการจองและโอนกรรมสิทธิ์โครงการจะมีสิทธิ์ลุ้นรับเงินฝากรวมกว่า 13 ล้านบาท จับรางวัลทุกวันที่ 9 ของทุกเดือน ประกาศผลทุกวันที่ 13 ของเดือน ทั้งนี้ บริษัทจะจับรางวัลทุกเดือนต่อเนื่อง 10 เดือน ให้ลุ้นเงินสด 1 ล้านบาท
สิ้นปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 2,178 ล้านบาท จะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ปี 2565 จำนวน 1,611 ล้านบาท ที่เหลือ 567 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 2565 โดย Backlog ทั้งหมด เป็นโครงการแนวราบ 7% คอนโดมิเนียม 93%