‘บีแคป’แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย ตั้งเป้าAUMแสนล้านใน4ปี
บลจ.บีแคปตั้งเป้าAUMโตแตะแสนล้านภายใน4ปี ส่วนปีนี้โต 20% แตะ6.2 หมื่นล้าน พร้อมและเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้ ระบุอสังหาฯน่าลงทุนเน้นกลุ่มฟื้นตัวช้าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล (BCAP) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM ) ที่20%หรือประมาณ 6.2หมื่นล้านบาท จากเดิมในปีที่ผ่านมาอยู่ที่5.2หมื่นล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย กองทุนรวม 1.3 หมื่นล้านบาท กองทุนสำรองเรียนชีพ 1.82 หมื่นล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วง2เดือนที่ผ่านมาก็เติบโตไปแล้วถึง4พันล้านบาท และคาดว่าภายใน4ปีเอยูเอ็มของบริษัทจะเติบโตได้ถึง 1 แสนล้านบาท
"ในวันนี้เราจะออกกองทุนอีกประมาณ 10 กองและน่าจะเป็นกองหุ้นต่างประเทศทั้งหมด ซึ่งจะเน้นการลงทุนในETFต่างประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่การลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ โดยใช้ระบบและทีมงานที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อให้การลงทุนมีการปรับเปลี่ยนและดูแลพอร์ตการลงทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น"
นางเมธ์วดี กล่าวอีกว่า แนวโน้มการลงทุนในปีนี้บริษัทแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย หลังจากในปีที่ผ่านมาได้มีการลดน้ำหนักลงและเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ โดยกลุ่มที่น่าลงทุน จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและมีอัตราการเติบโตช้ากว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบด้วยหุ้นกลุ่มธนาคารพลังงานและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
นอกจากนี้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กองทุนรีทและกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นทางเลือกหนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญในปีนี้ โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเช่นโรงแรมและโครงสร้างพื้นฐานที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
"หุ้นไทยระยะสั้นเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นและบริษัทมีความเห็นว่าควรจะทยอยสะสมเพิ่มเข้ามาในพอร์ตการลงทุนโดยกลยุทธ์ที่แนะนำให้ใช้มีความจำเป็นต้องมีการคัดเลือกหุ้นมากขึ้น ซึ่งหุ้นไทยถือว่ามีการฟื้นตัวช้าคาดว่าน่าจะเติบโตได้ในช่วงที่ เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน"