‘ดีโอดี’นำทีมหุ้นพันธมิตรกัญชงร่วง เซ่นข่าวถูกเรียกคืนใบอนุญาต

เวลานี้กัญชงได้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากจะนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งของคาวและของหวาน รวมทั้งเป็นส่วนผสมในสินค้าอุปโภคต่างๆ

เมื่อกระแสกัญชงมาแรงขนาดนี้ ทำให้บรรดาบริษัทจดทะเบียนพร้อมใจเข้าสู่ธุรกิจสายเขียวนี้ทันที เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ บริษัทไหนมีที่ดินเยอะๆ สนใจหันมาปลูกกัญชง เพราะได้ราคาดี ใช้เวลาปลูกไม่นานก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

มีการตั้งโรงงานสารสกัด ซึ่งอาจยังทำได้ไม่กี่บริษัท เพราะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงจะเป็นผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ในการนำสารสกัด CBD จากกัญชงมาใช้ประโยชน์ ทำเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว และอื่นๆ อีกมากมาย

หนึ่งในบริษัทที่ถือว่าเนื้อหอมที่สุดขณะนี้คงหนี้ไม่พ้น บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ซึ่งรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของลูกค้าอยู่แล้ว แถมยังเป็นบริษัทเดียวในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงจากต่างประเทศ จึงถูกรุมจีบให้มาร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยกัน

ประเดิมด้วยบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN จับมือกับ DOD สนใจทำอาหารเสริมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีส่วนผสมของกัญชงกว่า 10 รายการ, ตามด้วยบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เซ็นเอ็มโอยูกับ DOD เพื่อร่วมมือจัดหาเมล็ดกัญชง เพาะปลูก รับซื้อกัญชง ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน

ตามแผนมี 8 ผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวในปีนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อขับสารพิษในลำไส้, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงข้อเข่า, ผลิตภัณฑ์บำรุงสมองช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับ เป็นต้น

ส่วนบริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS จ้าง DOD วิจัยและผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของกัญชง และล่าสุดบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY พึ่งจะเซ็นเอ็นโอยูกันไป โดยมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดจากกัญชงในช่วงครึ่งหลังของปี

แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 มี.ค.) หลังมีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เรียกคืนใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงจากบริษัทเอกชนทั้ง 7 ราย รวมถึง บริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด บริษัทย่อยของ DOD ด้วย ทำให้เกิดความตื่นตระหนกตามมาทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆ อย. ถึงมายึดไลเซ่นส์คืน และยิ่ง DOD ออกมาระบุว่า อย. ไม่มีการแจ้งสาเหตุ ยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน 

จนในที่สุด อย. ต้องออกมาชี้แจงว่า มีการเข้าใจผิดพลาดกันเล็กน้อย โดยการเรียกคืนใบอนุญาตครั้งนี้เพื่อนำกลับมาจัดทำรายละเอียดแนบท้ายเพิ่มเติม ตามคำสั่งของคณะกรรมการยาเสพติด ที่ต้องการให้ระบุข้อมูลให้ครบถ้วนในการนำเข้าแต่ละครั้ง ทั้งจำนวนเมล็ดพันธุ์, ชนิดของเมล็ดพันธุ์, ใบรับรองไม่ใช่พืชที่ตัดต่อพันธุกรรม, ใบรับรองไม่มีโรคพืช, แหล่งที่มีของเมล็ดพันธุ์, ใบสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์จากผู้ได้รับอนุญาตเพาะปลูกในประเทศ เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริตมีการรั่วไหลเกิดขึ้น

ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการยาเสพติด คาดว่าจะมีความชัดเจนว่าจะสามารถส่งคืนใบอนุญาตให้เอกชนได้เมื่อไหร่ ยืนยันว่าไม่ได้มีการเรียกคืนใบอนุญาตอย่างถาวร ด้าน DOD ออกมาคาดการณ์ว่าจะได้รับใบอนุญาตคืนใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งเบื้องต้นทำให้การนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงล่าช้าไปเล็กน้อยจากเดิมวางแผนไว้ว่าจะเริ่มนำเข้าในช่วงต้นเดือนเม.ย. นี้ เลื่อนเป็นปลายเดือนเม.ย.

ถือว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคเท่านั้น ดูแล้วไม่น่าส่งผลกระทบรุนแรงต่อการดำเนินธุรกิจ แต่ก็มีหลายเสียงออกมาวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตว่า ด้วยสายพันธุ์ที่แนบแน่นระหว่างเอกชนและหน่วยงานรัฐไม่น่าจะเกิดความผิดพลาด หรือ มีความเข้าใจผิดกันแบบนี้เกิดขึ้น