“บ้านมือหนึ่ง-บ้านมือสอง”คนยุคนี้เลือกแบบไหน?
ปฏิเสธไม่ได้ว่านิยามการมีบ้านของผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นมีด้วยกันหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การซื้อบ้านมือหนึ่ง เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเลือกซื้ออสังหาฯ มือสอง และทรัพย์สินรอการขาย แล้วนำมาตกแต่งต่อเติมให้ตรงความต้องการของทุกคนในครอบครัว
ความท้าทายจากปัจจัยแวดล้อมดังกล่าวทำให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ผู้บริโภคหันมาพิจารณาที่ความคุ้มค่าที่ได้รับและตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัวเป็นหลัก ทำให้ที่อยู่อาศัยมือสองกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบสนองความต้องการของคนอยากมีบ้านได้ทั้งในมุมของความคุ้มค่าในราคาที่สามารถซื้อได้ (Affordable price)
ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์เผยภาพรวมที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศในช่วงไตรมาส 4 ปี 2563 พบว่า มีที่อยู่อาศัยมือสองเสนอขายเฉลี่ยเดือนละ 113,211 หน่วย รวมมูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 842,253 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองมีสัดส่วนเฉลี่ย 10.9% ต่อเดือน เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยที่ประกาศขาย ในขณะที่บ้านมือหนึ่งตอบรับกับผู้บริโภคที่ต้องการบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใหม่กว่ามาพร้อมกับความทันสมัยที่มากกว่าโครงการบ้านมือสอง ซึ่งตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากกว่า
ส่องความคิดผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีต่อบ้านมือหนึ่ง-บ้านมือสอง
จากผลสำรวจ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ถึง 72% ให้ความสนใจเลือกซื้ออสังหาฯ จากโครงการใหม่ เหตุผลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านมือหนึ่งแน่นอนว่าคือ สิ่งอำนวยความสะดวกและคุณสมบัติในบ้านที่ใหม่และทันสมัยกว่า เป็นเหตุผลอันดับต้น ๆ ที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ (58%) ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการสร้างใหม่ ตามมาด้วยการได้อยู่ในทำเลที่ดี และโครงการตั้งอยู่ในทำเลใหม่ที่มีศักยภาพ (44% และ 43% ตามลำดับ) โดยผู้บริโภคที่สนใจบ้านมือหนึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากที่สุดคือช่วงอายุ 30-39 ปี อยู่ที่ 33% รองลงมาคือช่วงอายุ 22-29 ปี อยู่ที่ 25%
ในขณะที่ผู้บริโภค 1 ใน 4 (28%) พิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมือสองที่นำกลับมาขายใหม่หรือรีเซล (Resale) โดยเฉพาะในช่วงอายุตั้งแต่ 40-60 ปีขึ้นไปสนใจเลือกซื้ออสังหาฯ มือสองมากกว่า (ช่วงอายุ 40-49 ปี อยู่ที่ 30%, ช่วงอายุ 50-59 ปี อยู่ที่ 18%, ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 7%)
เมื่อพิจารณาเหตุผลที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคที่เลือกซื้อบ้านมือสองส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและราคาเป็นหลัก โดยมากกว่าครึ่งมองว่าการซื้อบ้านมือสองทำให้ได้ที่อยู่อาศัยตรงตามสภาพจริงเพราะได้เห็นโครงการที่ก่อสร้างและตกแต่งแล้วเสร็จก่อนตัดสินใจซื้อ ตามมาด้วยราคาที่ถูกกว่าโครงการเปิดใหม่ในสัดส่วนที่ไล่เลี่ยกัน (57% และ 56% ตามลำดับ) นอกจากนี้ การได้ที่อยู่อาศัยในทำเลดีกว่าก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญเช่นกัน (43%)
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการสั่งสมประสบการณ์ชีวิตจากการทำงานและการสร้างครอบครัว ทำให้คนกลุ่มนี้เข้าใจความต้องการของตัวเองที่แท้จริงเมื่อมองหาที่อยู่อาศัยได้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงบทบาทและสถานะของหัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบดูแลสมาชิกในบ้าน ต้องมีการวางแผนบริหารจัดการการเงินอย่างรอบคอบและคุ้มค่าที่สุด จึงให้ความสำคัญกับการมีเงินเก็บและการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว เมื่อต้องเผชิญสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบางและส่งผลต่อรายได้โดยตรงในขณะนี้ จึงทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้พิจารณาที่อยู่อาศัยจากความคุ้มค่าด้านราคาและฟังก์ชันการใช้งานจริงมากกว่าเน้นที่ความสดใหม่ของโครงการ