คุณเป็น 'HENRY' หรือเปล่า ? เปิดพฤติกรรมคนรุ่นใหม่รายได้สูง แต่ไม่รวยสักที

คุณเป็น 'HENRY' หรือเปล่า ? เปิดพฤติกรรมคนรุ่นใหม่รายได้สูง แต่ไม่รวยสักที

รู้จัก "HENRY" พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่มีรายได้สูง หาเงินเก่ง แต่ก็ใช้เงินเก่ง รวมถึงไม่วางแผนการเงิน ส่อแววการเงินพังเมื่อ "ไม่ได้ทำงาน"

"แก่ก่อนรวย" เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ากังวลในสังคมไทย สาเหตุหลักที่คนไทยจำนวนมากประสบปัญหาทางการเงินในช่วงวัยเกษียณมาจากการวางแผนและจัดการทางการเงินในช่วงวัยทำงานที่ยังไม่ดีพอ

โดย ผลสำรวจทักษะทางการเงินของไทย ปี 2561 พบว่า มีเพียง 1 ใน 5 ของคนไทยเท่านั้นที่เห็นความสำคัญของ "การออม" และทำตามแผนการออมเพื่อวัยเกษียณของตัวเองได้จริง

นอกจากนี้ ยังพบว่าอุปสรรคสำคัญข้อหนึ่ง คือ ความยุ่งยากในการวางแผนทางการเงินเพราะขาดข้อมูลการออมแบบครบวงจร

ไม่ใช่แค่กลุ่มนอกจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อยน่ากังวลเท่านั้น พฤติกรรมการใช้เงินของคนที่มีรายได้สูงแต่ไม่วางแผนทางการเงินเลยก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีคำเรียกกว่า "HENRY" ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีรายได้สูง แต่ไม่รวยสักที เพราะใช้เงินเก่ง

  •  รู้จักการใช้เงินสไตล์ "HENRY" 

"HENRY" ย่อมาจาก "High Earner Not Rich Yet" เป็นนิยามที่ใช่เรียกกลุ่ม คนรุ่นใหม่ ที่มีรายได้สูง แต่ไม่มีเงินเก็บเลย และจะประสบปัญหาทางการเงินทันทีเมื่อหยุดทำงาน ซึ่งมักมีพฤติกรรมการใช้เงินที่ค่อนข้างเน้นชีวิตสะดวกสบาย หรูหรา และอยู่ในสังคมที่ใช้ชีวิตหรูหรา

คำนี้แพร่หลายในนิตยสาร Fortune ตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งเป็นลักษณะที่พบในกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ในอเมริกา และเริ่มได้ยินมากขึ้น และเริ่มถูกพูดถึงในบ้านเราเนื่องจากเริ่มเห็นพฤติกรรมของคนไทยในลักษณะในนี้มากขึ้นเช่นกัน 

ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเรากำลังใช้จ่ายเพื่อความสุขของชีวิต เพื่อเป็นรางวัลให้ศักยภาพในการหารายได้ที่สูงของตัวเองบ้าง แต่จุดที่น่ากังวลสำหรับคนกลุ่มนี้คือการใช้จ่ายที่มากเกินตัว "ไม่มีการวางแผนทางการเงิน" "ไม่มีเก็บเงิน" ซึ่งเมื่อถึงช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ขาดรายได้กะทันหัน คนกลุ่มนี้ก็จะประสบปัญหาทางการเงินแทบไม่ต่างกับคนที่มีรายได้ไม่สูงเลย 

  • คุณเป็น HENRY หรือเปล่า?

โดยพฤติกรรมที่สะท้อนว่า คุณกำลังเป็น HENRY มี 5 ข้อหลักๆ ลองเช็คดูซิว่า คุณกำลังเป็น  HENRY อยู่หรือเปล่า ? 

- มีรายได้สูงกว่ารายได้เฉลี่ยค่อนข้างมาก หรือมีรายได้เกิน 6 หลัก

- ไม่คิดเยอะเรื่องการใช้เงิน อยากได้ปุ๊บซื้อปั๊บ

- ไม่มีเงินเก็บ มีเยอะใช้เยอะ เดือนแทบชนเดือน

- ไม่วางแผนการเงิน มองการใช้เงินในระยะสั้นๆ

- ชอบสินค้าและบริการที่หรูหรา และหยุดไม่ได้ ต้องมีใหม่ๆ ตามเทรนด์เพื่อความดูดีอยู่เสมอ

162245843520

สิ่งที่น่าเสียดาย คือเม็ดเงินที่คนกลุ่มนี้หาได้หากมีการวางแผน จะเป็นพื้นฐานทางการเงินที่ดีสำหรับตัวเอง และเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความมั่งคั่งได้เร็ว แต่หากไม่มีการวางแผนเพื่อรับความเสี่ยงไว้เลย เงินที่ไหลมาเทมาจากการทำงานแบบ Active Income ที่ต้องการอาศัยแรงการทำงาน ในวันหนึ่งที่ "ไม่ได้ทำงาน" หรือ "ทำงานไม่ได้" หรือ "ไม่มีรายได้" ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม อาจจะทำให้ประสบปัญหาทางการเงินได้ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวได้เหมือนกัน 

  •  เป็น Henry หรือไม่ใช่ Henry ก็ควรมีแผนทางการเงินในแบบของตัวเอง 

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนรุ่นใหม่ประสบปัญหาทางการเงินคือ "การใช้เงินเกินตัว" โดยเป็นหนี้ที่เรียกว่า "หนี้บริโภค(ที่ไม่จำเป็น)" และการ "เพิกเฉยต่อการวางแผนทางการเงิน" 

โดยเฉลี่ย เราจะมีเวลาหาเงินประมาณ 40 ปี (สมมติเริ่มทำงานตอนอายุ 20 ปี เกษียณตอนอายุ 60 ปี) คิดในมุมที่แย่ที่สุดคือหากหลัง 60 ปี ไม่มีรายได้เข้ามาแล้ว เท่ากับเราต้องใช้เงินที่หามาได้หรือเงินที่สะสมไว้ทั้งหมด มาแบ่งใช้ให้พอใช้สำหรับระยะเวลาถึงช่วงบั้นปลายของชีวิต 

ซึ่งอายุเฉลี่ยของประชากรไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าในอดีต โดยสถิติปี 2563 อายุเฉลี่ยของคนไทยเพศชายอยู่ที่ 72.4 ปี ขณะที่เพศหญิงเฉลี่ย 78.9 ปี ซึ่งหากอายุของเราใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย เท่ากับว่า เราจะต้องใช้เงินเก็บที่สะสมไว้ตลอดการทำงานหลังจากเกษียณอายุ 60 ปีไปอีก ราว 12-18 ปีกันเลยทีเดียว

ดังนั้น หากเรายิ่งออมช้า ไม่มีการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุ หรือวางแผนช้าเท่าไร เรายิ่งมีความเสี่ยงทางการเงินเมื่อวัยเกษียณมากขึ้นเท่านั้น

เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะมีพฤติกรรมแบบ Henry อยู่ หรือใครก็ตามที่ยังคงมองข้ามเรื่องการวางแผนการเงินของตัวเองในตอนนี้ ลองเริ่มต้นวางแผนเก็บเงินเผื่อฉุกเฉินอย่างน้อย 6-12 เท่าของค่าใช้จ่ายประจำ

รวมถึงวางแผนการเงินสำหรับ "วัยเกษียณ" เอาไว้แต่เนิ่นๆ ซึ่งจะเป็นเบาะนุ่มๆ รองรับเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ทำให้ใช้ชีวิตได้แบบไม่ต้องกังวลเมื่อวันนั้นมาถึง 

ที่มา: gqthailand ตลาดหลักทรัพย์ boi.go.th กรมกิจการผู้สูงอายุ