การจัดจ้างงานจาก 'หน่วยงานภายนอก' ในยุคโควิด-19

ในยุคที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ซึ่งมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นในภาคธุรกิจ หรือภาคอุตสาหกรรม โควิด-19 ถือเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบรุนแรงที่สุดในยุค ไม่เพียงแต่เศรษฐกิจทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังส่งผลครั้งยิ่งใหญ่ไปยังธุรกิจที่มาในรูปแบบของการจัดจ้างงานจากหน่วยงานภายนอก (Outsourcing)

นอกจากโควิด-19 แล้ว ภาคธุรกิจต่างกำลังเผชิญกับภูมิทัศน์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยี และการปรับตัวให้ทันกับวิธีการใหม่ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความท้าทายที่กำลังเกิดขึ้นจาก 3 สิ่งนี้ ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวโดยผสมผสานแนวทางการทำงานระหว่างบุคลากรภายในองค์กรและ Outsourcing เพื่อให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นเรื่องความชัดเจน ความยืดหยุ่น ความโปร่งใส และการควบคุม 

Outsourcing เป็นข้อเสนอที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจได้ประโยชน์อย่างสูงสุด กระบวนการนี้ช่วยให้ธุรกิจสร้างทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยปราศจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการจ้างพนักงานประจำ พื้นที่สำนักงาน หรืออุปกรณ์เพิ่มเติม ด้วยการOutsourcing นี้ ทำให้เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารอาวุโสสามารถมุ่งเน้นความสนใจและทรัพยากรไปที่ธุรกิจหลักและใช้เวลาไปกับการตั้งเป้าหมายใหม่และค้นหาทางที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

จาก Deloitte’s 2020 Global Outsourcing Survey พบว่าหลายบริษัทให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างมาก โดยระบบคลาวด์และระบบอัตโนมัติยังคงเป็นแรงผลักดันหลักในการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงมากมาย ผลกระทบจาก โควิด-19 ได้ส่งสัญญาณให้เรากลับไปดูหลักการพื้นฐาน เช่น การเพิ่มมูลค่าและการลดต้นทุน โดยเน้นเพิ่มเติมในเรื่องการบริหารจัดการความเสี่ยง

สิ่งสำคัญที่ค้นพบจากผลการสำรวจ มีดังนี้

1. การลดต้นทุนกลับมาเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจในลำดับต้นๆ

2. Cloud & Robotics Process Automation (RPA) เป็นสิ่งที่ต้องมี

3. ความคล่องตัวเป็นสิ่งสำคัญ

ในขณะที่ลูกค้ามุ่งอยู่กับความสามารถในเรื่องของการขยายตัว ความคล่องตัว การนำเทคโนโลยีมาใช้งาน และนวัตกรรม โควิด-19 ได้นำพาเรื่องการลดต้นทุนกลับมา และทำให้เราต้องกลับมาให้ความสำคัญกับตัวเลขอีกครั้ง ผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า การวัดผลกระทบจากต้นทุนนั้นง่ายกว่าหากเทียบกับการเชื่อมโยงผลประโยชน์ที่จะได้จากความสามารถในการขยายตัวและการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน ผลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการนำ RPA มาปรับใช้ผ่านการ Outsourcing

ผู้สัมภาษณ์ส่วนใหญ่ (2 ใน 3) พบว่าแรงจูงใจหลักได้เปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยคำนึงถึงเรื่อง RPA มาก่อน มาเป็นนำ RPA มาปรับใช้เพื่อลดต้นทุน ทั้งนี้ การนำ RPA มาปรับใช้ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการลดต้นทุน แต่ยังช่วยให้พนักงานมีเวลาที่จะให้ความสำคัญกับประเด็นเชิงกลยุทธ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานและลูกค้าพอใจมากยิ่งขึ้น และส่งผลดีต่อมูลค่าองค์กรต่อไป 

Outsourcing สร้างโอกาสมหาศาลเมื่อเทียบกับรูปแบบธุรกิจภายในดั้งเดิม Outsourcing เอื้อให้ธุรกิจสามารถสร้างแหล่งเงินทุนเพิ่มได้ โดยลดค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมที่ไม่ใช่กิจกรรมหลัก ทำให้ ธุรกิจสามารถเพิ่มทรัพยากรและเน้นความสำคัญไปที่กิจกรรมหลักของธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็จ้างหน่วยงานภายนอกสำหรับงานที่ไม่ใช่ส่วนงานหลัก การจ้างบุคลากรของหน่วยงานภายนอกที่มีความสามารถได้ตามความต้องการนั้น จะทำให้องค์กรสามารถปรับขนาดโครงสร้างพนักงานได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องจ้างพนักงานประจำเพิ่มเติม ไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย และการลงทุนในพื้นที่สำนักงานและอุปกรณ์

การใช้ Outsourcing ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ และช่วยให้นายจ้างได้ใช้ประโยชน์จากความสามารถของพนักงานที่มีอยู่ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น Outsourcing ยังช่วยให้บุคลากรภายในสามารถให้ความสำคัญกับการทำงานเชิงกลยุทธ์และโปรเจค ที่ได้ใช้ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสร้างผลลัพธ์ได้อย่างแท้จริง ในทำนองเดียวกันเมื่อไม่ต้องจ้างพนักงานในส่วนงานสนับสนุน ก็จะทำให้มีงบประมาณมากขึ้นในการจ้างพนักงานในส่วนงานที่ช่วยก่อให้เกิดรายได้

ในขณะที่องค์กรต่างๆ ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการรับมือกับผลกระทบของการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง Outsourcing จะยังคงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ในขณะเดียวกันการนำดิจิทัลมาเปลี่ยนวิธีการในการทำงานกลายเป็นสิ่งจำเป็นในทุกภาคส่วน ลูกค้ายังคงมองหาพันธมิตรที่สามารถช่วยยกระดับการทำธุรกิจ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจ ช่วยให้ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และปรับปรุงองค์กรเพื่อให้ทันตลาด

การทำงานกับหน่วยงานภายนอกที่มีประสบการณ์ช่วยให้องค์กร ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล สร้างความคล่องตัวให้กับการปฏิบัติงาน และเพิ่มทรัพยากรที่องค์กรยังอาจขาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายขาย ฝ่ายค้นหาทรัพยากรบุคคล หรือฝ่ายการปฏิบัติ Outsourcing ช่วยสร้างโอกาสให้กับธุรกิจอย่างไม่จำกัด และช่วยให้ทำงานได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ช่วยให้บริษัทที่มองการณ์ไกลได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้ Outsourcing มาได้ระยะหนึ่งแล้ว สิ่งนี้ยังตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ขาดแคลนด้านการเงินและไม่สามารถมีหน่วยงานเสริม เช่น แผนกการเงินและภาษี ภายในได้ อีกด้วย

นอกจากประหยัดเวลาและเงิน ซึ่งเป็นสิ่งแล้ว การ Outsourcing ในตำแหน่งงานหลังบ้านยังทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและระบบล่าสุด รวมถึงแนวการปฏิบัติงานชั้นนำอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ มีความคล่องตัวเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่มีความซ้บซ้อนทางธุรกิจและช่วยเพิ่มสภาพแวดล้อมด้านการควบคุมได้ดียิ่งขึ้น Outsourcing ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการอย่างถูกต้องโดยปราศจากความกังวลว่าจะต้องทำอย่างไรบริษัทถึงจะปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัวในการตอบสนองต่อแนวโน้มธุรกิจใหม่ ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนั้นๆ

Outsourcing หรือ การจัดจ้างงานจากหน่วยงานภายนอกยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรลูกค้าในการสนับสนุนเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ข้อกำหนดต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง (และมากยิ่งขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19) และภาคอุตสาหกรรมยังคงให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องทั้งแนวทางแก้ปัญหาที่มีอยู่แล้วและแนวทางแก้ปัญหาใหม่ๆ