KTB - ซื้อ

KTB - ซื้อ

ผลประกอบการ 1Q64: มาร์จิ้นถูกกดดัน

Event

กำไรสุทธิของ KTB ใน 1Q64 อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท (+48% QoQ แต่ -8% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา/ของตลาดรวม ถึงประมาณ 40% เนื่องจากมีกำไรจากการปรับมูลค่าการลงทุนตามราคาตลาด (หรือ FVTPL) ก้อนใหญ่ และตั้งสำรองน้อยกว่าที่คาดไว้แต่หากไม่รวมรายการ FVTPL กำไรจากการ
ดำเนินงานก่อนกันสำรอง (PPOP) จะต่ำกว่าประมาณการของเราประมาณ 16% เพราะมาร์จิ้นกกดดัน ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1Q64 คิดเป็น 29% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา

lmpact

Margin ลดลงเพราะถูกกดดันจาก yield

สินเชื่อทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 11% YoY ซึ่งเมื่อเทียบ QoQ สินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้น 3% แต่สินเชื่อกลุ่มอื่นๆ และสินเชื่อภาครัฐลดลง แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ yield ถูกกดดัน และฉุดให้ NIM ลดลงเกือบ 10bps เราคิดว่าแรงกดดันจาก yield และ margin อาจจะเป็นผลจากการกลับรายการรายได้ดอกเบี้ยค้างรับออกจากรายได้ดอกเบี้ยหรือการปล่อยกู้กดอกเบี้ยต่ำให้กับสินเชื่อลูกหนี้ประสบปัญหาในโครงการผ่อนผันหนี้

รายได้ค่าธรรมเนียมทรงตัว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง

เนื่องจากถูกกดดันจากทางด้านรายได้ KTB จึงหันมาบีบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ส่งผลให้สัดส่วน C/I อยู่ในระดับต่ำที่ 44%

คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นเล็กน้อย

NPL ลดลงเล็กน้อย และขยับอยู่ในช่วงแคบ ๆ ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สี่ ในขณะที่กำหนด Credit cost ลดลง 20bps QoQ และ YoY เหลือ 135bps โดยสัดส่วน NPL coverage เพิ่มขึ้น 147% (จาก 140% ใน 4Q63)

Valuation & Action

เนื่องจากกำไรสุทธิใน 1Q64 คิดเป็น 29% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา ในขณะที่เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q63 จะชะลอตัวลงจากความเสี่ยงในการตั้งสำรอง และแรงกดดันจากรายได้ค่าธรรมเนียม เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 เอาไว้เท่าเดิม ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้น KTB อยู่ในระดับที่ต่ำมาก เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 16.50 บาท (P/BV ที่ 0.6x)

Risks

NPL เกิดใหม่ และกันสำรองเพิ่มขึ้น, yield และ margin ลดลง