ซื้อ ‘ประกันโควิด-19’ อย่างไร ได้ประโยชน์และคุ้มครองสูงสุด
คปภ.แนะแนวทางเลือกซื้อ ‘ประกันโควิด-19’ อย่างไร ได้ประโยชน์และคุ้มครองสูงสุด เริ่มต้นเช็คประกันที่มีอยู่ทำอะไรไว้บ้าง หากต้องการซื้อเพิ่ม ดูความเสี่ยง-เงินในกระเป๋า เป็นหลัก และต้องกรอกข้อมูลตามจริง ย้ำถ้าจงใจเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยงติดหวังเงินประกัน จำคุกไม่เกิน3ปี พร้อมอัพเดท 7เงื่อนไขความคุ้มครองที่ประชาชนควร
เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 กลับมาระบาดรุนแรงและรวดเร็ว ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อทำนิวไฮทะลุ2,000รายแซงตลาดหุ้นไปเรียบร้อย
ความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมาก ทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาถามหา “ประกันโควิด-19”กันอีกแล้วจากช่วงก่อนหน้านี้หลายคนปฏิเสธการต่ออายุไป ก็ต้องมาหาซื้อประกันโควิด-19 กันใหม่
แน่นอนว่า หลายคนซื้อความคุ้มครอง3-4กรมธรรม์ เหมือนเคย เพราะว่าบริษัทประกันเอง ออกแผนที่คุ้มครองหลากมายให้เลือกมากขึ้น “แถมเบี้ยก็แค่หลักสิบหลักร้อย แต่ความคุ้มครองหลักแสนหลักล้าน แถมเพิ่มความคุ้มครองอัดแน่นทั้งกรมธรรม์เดิมและออกกรมธรรม์ใหม่ ทั้งค่าชดเชยรายได้ นอนโรงพยาบาลและช่วงพักฟื้น ค่ารักษาทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ค่าตรวจโควิดคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด หรือแพ้วัคซีน
อีกทั้งยังมีบริการเสริมเพียบ ทั้งปรึกษาคุณหมอ ปรึกษาซื้อประกันและบริการเคลมสินไหม และค่าทำความสถานที่เอาประกันภัยแหล่งติดเชื้อ
อย่างไรก็ตามการหากใครกำลังมองหาความคุ้มครอง “ประกันโควิด-19” มีคำแนะนำดีๆในการเลือกซื้อ อย่างไรให้ได้ประโยชน์และคุ้มครองสูงสุด จาก”สุทธิพล ทวีชัยการ” เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) บอกว่า สิ่งที่สำคัญ ก่อนทำประกันโควิด-19 ให้ทำการสำรวจตนเองก่อนว่า ได้ทำประกันภัยใดไว้บ้างหรือไม่ และเพียงพอกับความต้องการหรือไม่ เพราะการประกันภัยบางประเภทให้ความคุ้มครองรวมถึงโควิด-19 อยู่แล้ว อาทิ การประกันชีวิต และการประกันภัยสุขภาพ
หากมีความจำเป็นต้องการทำประกันภัยโควิด-19 เพิ่มเติม มีแนวทางเลือกซื้อ ดังนี้
1.ศึกษาและดูรายละเอียดความคุ้มครองของแต่ละบริษัทประกันให้ครบถ้วน เพราะแต่ละบริษัทได้จัดทำแผนประกันภัยเสนอขายให้เลือกซื้อที่แตกต่างกัน โดยแต่ละคนจะมีความต้องการความคุ้มครองพื้นฐานแตกต่างกันออกไป อาทิบุคคลที่มีสวัสดิการดูแลค่ารักษาพยาบาลของรัฐบางราย อาจต้องการการดูแลค่ารักษาเพิ่มเติม ก็สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้
2.พิจารณาความเสี่ยงภัย และความความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันหรือกำลังซื้อตนเอง ขอให้พิจารณาเลือกซื้อภายใต้พื้นฐานตามความจำเป็นและความต้องการบริหารความเสี่ยงภัยของตนเอง หากต้องการเลือกซื้อหลายฉบับ หรือจำนวนเงินเอาประกันภัยน้อย-มากดูความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันเป็นหลัก
3.ให้กรอกข้อมูลประกอบการขอเอาประกันภัยก็ต้องแถลงข้อความจริงตามใบคำขอที่บริษัทสอบถาม ซึ่งข้อมูลเหล่านี้บริษัทจะใช้ในการพิจารณารับประกันภัย เช่น การทำประกันโควิด-19 บริษัทอาจถามว่ามีการซื้อประกันโควิด-19 ไว้แล้วกี่ฉบับกับบริษัทประกันภัยใดบ้าง
หากบริษัทพิจารณาแล้วรับประกันภัยแล้ว ประชาชนก็จะได้รับความคุ้มครองทุกฉบับ และการเคลมสินไหมหากเป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ บริษัทก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขกรมธรรม์เช่นกัน
แต่มีข้อยกเว้นที่ประชาชนคนทราบคือ “การเจตนาทุจริต หวังประโยชน์จากการทำประกันภัย ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่าย เป็นการฉ้อฉลประกันภัยได้”
“สุทธิพล” เลขาคปภ. ได้ยกตัวอย่างเช่น เมื่อทำประกันภัยแล้ว เข้าไปที่เสี่ยงเพื่อหวังผลให้ติดเชื้อแล้วเคลมประกันหรือประกันภัยหลายฉบับแล้วไปเอาตัวเองไปเสี่ยงรับเชื้อ เพื่อหวังเงินประกัน บริษัทอาจจะอ้างเหตุไม่จ่ายสินไหมทดแทนได้ เนื่องจากเป็นกรณีมีการเจตนา จงใจ โดยใช้สิทธิโดยไม่สุจริต หากมีหลักฐาน และถ้าเข้าข่ายเป็นการฉ้อฉลประกันภัยจะมีความผิดทางอาญาด้วย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
ต่อมาอยากรู้กันแล้วว่า ปัจจุบัน “ประกันโควิด-19” มีเงื่อนไขความคุ้มครองหลักๆ มีอะไรกันบ้าง ?
“สุทธิพล” เลขาคปภ. อัพเดจให้ฟังว่า ปัจจุบันจะมีความคุ้มครองหลัก ๆ ดังนี้
1. ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต (ประกันชีวิต) หรือภาวะโคม่าหรือการเจ็บป่วยระยะสุดท้าย (ประกันวินาศภัย) เนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ภาวะโคม่า (Coma) หมายถึง การสลบ หรือหมดความรู้สึกที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ หรือประสาทศัลยแพทย์ (Neurosurgeon) และตรวจพบลักษณะต่อไปนี้ครบทุกข้อ
- ไม่มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกอย่างน้อย 96 ชั่วโมง
- ต้องอาศัยเครื่องช่วยเพื่อพยุงชีพ
- ได้รับการประเมินว่าสมองถูกทำลายอย่างถาวร มีผลทำให้ไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งอย่างใดอย่างถาวร ภายหลัง 30 วันนับจากวันที่สลบหรือหมดความรู้สึก
แต่ไม่รวมถึงการสลบหรือหมดความรู้สึกที่มีสาเหตุโดยตรงจากการดื่มสุรา หรือการใช้ยาในทาง ที่ผิด (Drug abuse)
2.ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลแบบจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
3.ผลประโยชน์การได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือที่เรียกกันว่า เจอ จ่าย จบ
4.ผลประโยชน์ค่าชดเชยรายวันในกรณีที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในเนื่องจากโควิด-19 ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ระบุชดเชยไว้สูงสุดไม่เกิน 30 วัน
5.บางบริษัทได้มีการพัฒนาความคุ้มครองที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น อาทิ ค่าใช้จ่ายเพื่อทำความสะอาดสถานที่เอาประกันภัย หากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางว่าเจ็บป่วยด้วยเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นหลังระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) …วัน (กำหนดได้สูงสุดไม่เกิน 14 วัน) จนเป็นเหตุทำให้มีความเสี่ยงเป็นแหล่งในการติดเชื้อดังกล่าว บริษัทจะจ่ายค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดสถานที่เอาประกันภัย ได้แก่ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค อุปกรณ์ในการทำความสะอาด รวมถึงการว่าจ้างบริษัทบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น ให้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้
6.ค่าใช้จ่ายตรวจหาโควิด-19 ของบุคคลในครอบครัว หากได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางว่าเจ็บป่วยด้วยเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นหลังระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) ……วัน (กำหนดได้สูงสุดไม่เกิน 14 วัน) และทำให้บุคคลในครอบครัวเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อดังกล่าว บริษัทจะจ่ายค่าใช้จ่ายตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับบุคคลในครอบครัวตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงต่อคน สูงสุด ไม่เกิน……คน (บริษัทกำหนดได้สูงสุดไม่เกิน 10 คน) ทั้งนี้ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ แต่หากได้รับการชดใช้จากสวัสดิการของรัฐ หรือสวัสดิการอื่นใด หรือจากการประกันภัยอื่นมาแล้ว บริษัทจะรับผิดชอบเพียงจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในส่วนที่ขาดเท่านั้น
7.เพิ่มความคุ้มครองครอบคลุมถึงการแพ้วัคซีนโควิด-19
ส่วน “การเคลมประกันโควิด-19” ประชาชนต้องรู้อะไรบ้าง? “สุทธิพล” เลขาคปภ. มีคำตอบให้ใครครั้งถัดไป มาติดตามต่อกันได้เลย