‘ไทยแอร์เอเชีย’ ตั้งลำฝ่าพายุโควิด! ลดเที่ยวบิน 30% เซ่นพิษระลอก 3

ที่วาดฝันว่าตลาดไทยเที่ยวไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

แต่เมื่อฝันสลาย! โควิด-19 ระลอก 3 กระหน่ำทำลายจนแทบหมดแรง งานนี้ ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดอกบอกกันตรงๆ พูดได้อย่างเดียวว่าซัฟเฟอร์และเหนื่อย!

หลังการระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ “ไทยแอร์เอเชีย” อย่างไม่อาจหลบเลี่ยงได้ จำเป็นต้องลดเที่ยวบินราว 30% ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ไทยแอร์เอเชียใช้เครื่องบิน 42 ลำ ตอนนี้ปรับจำนวนเครื่องบินที่ใช้ทำการบินลดลงเหลือ 20 กว่าลำ จากฝูงบินที่มีอยู่ทั้งหมด 62 ลำ

“วันก่อนผมได้ไปเดินตรวจงานและบรรยากาศที่สนามบินดอนเมือง ถามพนักงานเคาน์เตอร์เช็กอิน พนักงานบอกว่าวันนี้ไม่เมื่อยเลย เพราะว่าคนหายไปเพียบ ดอนเมืองนี่โล่งเลย ตอนนี้ไทยแอร์เอเชียก็ลดเที่ยวบินไป 30% คงต้องดูอีกทีว่าจะน่าจะต้องปรับลดเที่ยวบินต่อหรือไม่ แต่ก็ยังหวังว่าแนวโน้มจะดีขึ้น”

เพราะขณะนี้ประชาชนต่างเฝ้าดูสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน ซึ่งปัจจุบันทะลุหลัก 2,000 กว่าคนต่อวันไปแล้ว ผู้คนต่างพยายาม “งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทาง” หลังจากวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุหลักพันคนเป็นวันแรก

นอกจากนี้แต่ละหมู่บ้านหรือชุมชนในต่างจังหวัด ระบุว่าใครที่มาจากพื้นที่เสี่ยงสีแดง ขอความร่วมมือหากกลับภูมิลำเนาต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน แต่ถ้าเป็นไปได้ ไม่กลับเลยในช่วงนี้จะดีกว่า!  เพราะต่างจังหวัดมีผู้สูงอายุจำนวนมาก จึงเป็นการงดการเดินทางโดยปริยาย

“ต้องรอดูสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันว่าเป็นอย่างไร ถ้าลดลง เชื่อว่าความมั่นใจในการเดินทางน่าจะกลับมา”

อย่างไรก็ตาม  ยังคาดการณ์ยากว่ากระแสการเดินทางจะกลับมาดีเหมือนก่อนช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาเมื่อไร? ซึ่งช่วงสงกรานต์ยังพอมีคนเดินทางบ้าง แต่หลังสงกรานต์คนเดินทางหายฮวบ! ทำให้ช่วงนี้ไทยแอร์เอเชียยังไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ต้องจับตาอีก “1 สัปดาห์” จากนี้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างไร แล้วค่อยมาดูเรื่องการปรับจำนวนเที่ยวบินให้สอดคล้องกับดีมานด์อีกครั้ง

“เอาจริงๆ แล้วผมไม่คิดว่าโควิด-19 ระลอก 3 จะมา ใจก็พูดเหมือนกับนักธุรกิจทุกคนในประเทศไทยว่าขอวัคซีนเร็วๆ ได้ไหม ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลเร่งทำ เร่งฉีดวัคซีนให้คนไทย เวลานี้เห็นทางนายกรัฐมนตรีและรองนายกฯ เร่งหาวัคซีนกันอยู่ ก็ให้ทางรัฐบาลทำงานไปก่อน พอสถานการณ์ระลอก 3 คลี่คลายดีขึ้น ค่อยหารือกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีกทีเรื่องแนวทางกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศร่วมกัน”

แต่สิ่งสำคัญคืออย่ายอมให้ “เวียดนาม” ฉีดวัคซีนแซงหน้าไทย ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของเวียดนามตอนนี้แทบจะไม่มี ถ้าไทยฉีดวัคซีนช้า! และเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ช้า จะเสียโอกาส!!  เสียนักท่องเที่ยวให้กับเวียดนาม ความมั่นใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะเทไปที่เวียดนามแทน และอาจจะไม่กลับมาเที่ยวประเทศไทยอีก

“ขณะนี้ยังพอมีเวลาในการเร่งฉีดวัคซีนให้คนไทย เรียกความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ทันไทม์ไลน์แผนเปิดประเทศซึ่งน่าจะมีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยจริงๆ ในช่วงปลายปีนี้ ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป”

ธรรศพลฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารของไทยแอร์เอเชียปี 2564 ที่เคยตั้งไว้ 9.4 ล้านคน เท่ากับปีที่แล้ว  ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด เพราะสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่นี้เพิ่งผ่านมาราว 3 สัปดาห์ แต่ต้องเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ค่อยทำโปรโมชั่น อัดแคมเปญส่งเสริมการขายกันอีกรอบ เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนออกเดินทางท่องเที่ยว

ยิ่งรัฐบาลมีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนจองสิทธิในวันที่ 17 พ.ค.นี้ สามารถช่วยได้ เพราะฉะนั้นยังไม่ต้องปรับลดเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้น อย่างโปรโมชั่น “ตั๋วบินรัวๆ ทั่วไทย” ของไทยแอร์เอเชียที่เพิ่งขายไปเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นดีมานด์ตลาดบินในประเทศหลังโควิด-19 ระลอก 2 คลี่คลาย ยังไม่ทันได้เริ่มบินกันมากนัก ก็เผชิญระลอก 3 ต่อทันที แต่เชื่อว่าเมื่อคนซื้อไปแล้ว อย่างไรก็ต้องกลับมาบินอยู่ดี

"สำหรับ 7 สายการบินในไทยยื่นเรื่องขอการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟท์โลนจากรัฐบาล แม้จะยังคงรอความชัดเจน แต่ระหว่างนี้เราก็ต้องช่วยตัวเอง ยืนยันอีกครั้งว่าไทยแอร์เอเชียไม่เจ๊งแน่นอน เราอยู่ได้!” ธรรศพลฐ์กล่าวปิดท้าย