ธุรกิจปลุกพลังความร่วมมือเคลื่อนภารกิจกู้วิกฤติโควิด

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลและธุรกิจในเครือวางแนวทางสนับสนุนรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้โครงการ “CRC รวมพลัง กู้วิกฤติโควิด-19” ผ่าน 4 ภารกิจที่ต่อยอดจากจุดแข็งขององค์กร ได้แก่ เครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวาง ศักยภาพบุคลากร  ตำแหน่งพื้นที่สาขาที่กระจายทั่วประเทศ และระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ 

ภารกิจแรก สร้างต้นแบบระบบการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร (Total solution) เพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด โดยใช้พื้นที่ธุรกิจในเครือ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ไทวัสดุ และท็อปส์ พลาซ่า 109 แห่งทั่วประเทศเป็นทางเลือกให้รัฐกระจายวัคซีนเข้าถึงคนไทยและต่อยอดไปทั่วประเทศ คาดว่าในแต่ละพื้นที่จะให้บริการฉีดวัคซีนได้ 1,500-2,000 คนต่อวัน

ภารกิจที่สอง สร้างต้นแบบโมเดลเพื่อเป็นแต้มต่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยร่วมกับธนาคารพาณิชย์ จัดทำแซนด์บ็อกซ์ (Sand Box) เฟสแรก เพื่อเสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ที่มียอดวงเงินกู้ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งได้นำเสนอรายชื่อและข้อมูลให้ธนาคารอนุมัติกว่า 6,000 ราย คาดว่า 1,000 รายแรก จะได้รับการอนุมัติ ซอฟท์โลนภายในสัปดาห์หน้า โดยมากกว่า 70% ของ 6,000 ราย ยังไม่เคยเข้าถึงซอฟท์โลนมาก่อน หลังจากนั้นจะทำเฟสต่อไปสำหรับเอสเอ็มอีที่มียอดวงเงินกู้มากกว่า 5 ล้านบาท 

พร้อมขยายผลแซนด์บ็อกซ์นี้ไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ผ่านสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมหอการค้าไทย สมาคมศูนย์การค้า และสมาคมโรงแรม เพื่อให้เอสเอ็มอีได้รับอนุมัติสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำมากกว่า 100,000 ราย เป็นการเสริมสภาพคล่องและเป็นแต้มต่อในการทำธุรกิจต่อไป

ภารกิจที่สาม ยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาพและสาธารณสุข แบ่งเบาภาระและส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้ราบรื่นที่สุด เช่น ร่วมกับ เอสซีจี แพคเกจจิ้ง นำกล่องกระดาษลูกฟูกรีไซเคิลเป็นเตียงสนาม รวบรวมให้ได้ครบ 7,000 เตียงภายในเดือนพ.ค. ซึ่งลูกค้าร่วมบริจาคได้ในห้างร้านและศูนย์การค้าในเครือกว่า 124 จุด ภารกิจที่สี่ "รวมพลังคนไทย ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน" ส่งเสริมการใช้สินค้าไทยและธุรกิจของคนไทย กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ และอุดหนุนการกิน เที่ยว ใช้ของไทย เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างเร็ว และยั่งยืน พร้อมเพิ่มโอกาสในการจ้างงานให้กับคนไทยทั้งประเทศ

“ในฐานะบริษัทไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 70 ปี เป็นฟันเฟืองในการเดินหน้าเศรษฐกิจ เชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน จะทำให้เกิดพลังสังคม ที่ทำให้ประเทศไทยกลับสู่สภาวะปกติได้ในที่สุด”

วัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญ โดยเซ็นทรัลพัฒนาวางโฟกัส “ร่วมมือ-รุกเร็ว-เป็นระบบ”  ภายใต้โรดแมพเร่งด่วนในการช่วยกระจายพื้นที่ฉีดวัคซีนผ่านพื้นที่ศูนย์การค้า 23 สาขา จาก 33 สาขาทั่วประเทศ ที่มีศักยภาพเป็น Provincial Vaccination Centers ล่าสุด “เซ็นทรัล สมุย” เป็น 1ใน 4 จุดที่ให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้ประชาชนบนเกาะสมุย ต่อจากต้นแบบการใช้พื้นที่ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนที่เซ็นทรัล ระยอง ซึ่งมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบนำไปปรับใช้กับศูนย์การค้าในจังหวัดอื่นๆ ได้ทันที เช่น จังหวัดนนทบุรี ที่มี 3 สาขาในพื้นที่ ได้แก่ รัตนาธิเบศร์ แจ้งวัฒนะ และ เวสต์เกต

นอกจากนี้ นำร่องฉีดวัคซีนให้พนักงานที่บริการลูกค้าแล้วที่ “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ตั้งเป้าหมายดำเนินการให้ 85% ของพนักงานได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มภายในกลางเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นอัตราที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) รองรับแซนด์บ็อกซ์ภูเก็ต

สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า โลตัส เสนอพื้นที่ 50 สาขาทั่วประเทศเป็นสถานที่ฉีดวัคซีน เบื้องต้น โลตัส สาขามีนบุรี จะเป็น1ใน14 สถานที่สำหรับนำร่องฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯในเดือน มิ.ย.คาดรองรับได้ 1,000 คนต่อวัน พร้อมใช้สื่อและช่องทางออนไลน์และสาขาทั่วประเทศช่วยสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนให้กับลูกค้าและประชาชนอีกด้วย

พร้อมกันนี้ ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ขยายเวลาแคมเปญ “ราคามหาชน ตัดและตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นต่อค่าครองชีพ” 180 รายการ จนถึง 30 มิ.ย.กว่า 2,000 สาขา เพิ่มปริมาณการรับซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ไม่สามารถส่งออกสินค้าได้ จัดมุมสินค้าเอสเอ็มอีไทยให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย และเตรียมจัด เอสเอ็มอี ออนไลน์ บิสสิเนส แมทชิ่ง ทุกเดือน เพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านสาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์