ทางเลือกใหม่? ทัวร์ฉีดวัคซีน เจาะลูกค้ากระเป๋าหนัก-วีซ่าพร้อมเดินทาง
บริษัททัวร์เอาต์บาวด์ดึงคนไทยเที่ยวนอกผ่าน “ทัวร์ฉีดวัคซีน” โฮลเซลทัวร์เจ้าใหญ่ “ยูนิไทย” ลุยขายแพ็คเกจทัวร์ฉีดวัคซีนที่สหรัฐ ราคาเริ่มต้น 6.75 หมื่นบาทต่อคน ส่วนเซอร์เบียราคารวมเริ่มต้น 2 แสนบาท เผยลูกค้าสนใจสอบถามสายไหม้มากกว่าร้อยราย
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธาน บริษัท ยูนิไทย แทรเวล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโฮลเซลทัวร์รายใหญ่ กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า แนวคิดการจัด “ทัวร์ฉีดวัคซีน” พาคนไทยไปเที่ยวพร้อมฉีดวัคซีนที่ต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทฯได้ประชาสัมพันธ์เสนอขายแพ็คเกจทัวร์ไป 2 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐ และเซอร์เบีย เนื่องจากเห็นดีมานด์ของคนไทยหลายรายที่อยากจะรีบฉีดวัคซีนยี่ห้อของสหรัฐก่อน เช่น จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หรือไฟเซอร์ จึงติดต่อเข้ามาที่บริษัทฯ และถ้าตัดสินใจเดินทางก็ต้องจองล่วงหน้าก่อน โดยจะให้แลนด์โอเปอเรเตอร์ (Land Operator) คู่ค้าที่ประเทศปลายทางทำการจองให้ เมื่อได้รับการคอนเฟิร์มแล้ว ค่อยเดินทางไป และในเมื่อได้ไปฉีดวัคซีนแล้ว บริษัทฯ มองว่าควรจัดโปรแกรมท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วย
หลังจากบริษัท ยูนิไทย ทริป จำกัด เพิ่งเริ่มประชาสัมพันธ์ขายแพ็คเกจทัวร์วัคซีน “เที่ยวไป...ฉีดไป กับยูนิไทยทริป” ไปยังสหรัฐและเซอร์เบีย ราคาเริ่มต้น 67,500 บาทต่อคน ไม่รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ โดยลูกค้าจะดำเนินการจองตั๋วเครื่องบินด้วยตัวเองหรือให้บริษัทช่วยจองให้ก็ได้
สำหรับโปรแกรมเดินทางมีให้เลือกว่าจะเป็น 7 วัน 6 คืน หรือ 10 วัน 7 คืน สู่ซานฟรานซิสโกและลอสแอนเจลิส ได้รับการฉีดวัคซีนยี่ห้อจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งฉีดแค่เข็มเดียว เป็นตัวเลือกที่น่าจะสะดวกสำหรับคนไทยที่ต้องการฉีดโดยเร็ว โดยขณะนี้ยังไม่มีกำหนดออกเดินทาง ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าจะรวมกลุ่มเดินทางไปกี่คน เช่น ถ้าลูกค้ามีฐานะดี ต้องการเดินทางกันแค่ 3-5 คนต่อกลุ่ม ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเฉลี่ยอาจสูงที่ 1 แสนกว่าบาทต่อคน แต่ถ้าไปกันมากกว่า 10 คนขึ้นไปต่อกลุ่ม ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเฉลี่ยก็จะลดลงอยู่ที่ 7-8 หมื่นบาทต่อคน
ส่วนทัวร์ฉีดวัคซีนที่เซอร์เบีย เป็นแพ็คเกจเดินทาง 30 วัน กำหนดวันเดินทางตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.-8 มิ.ย.นี้ จะมีวัคซีนให้เลือกฉีด 5 ยี่ห้อ ได้แก่ Sputnik V, แอสตร้าเซเนก้า, ไฟเซอร์, ซิโนแวค และโมเดอร์น่า
- เน้นกรุ๊ปอินเซนทีฟ-เดินทางเฉพาะกลุ่ม
นายรัชพล แย้มแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิไทยทริป จำกัด กล่าวเสริมว่า หลังจากบริษัทฯเริ่มประชาสัมพันธ์ขายทัวร์ฉีดวัคซีนไปสหรัฐและเซอร์เบีย ได้รับการติดต่อจากลูกค้าทั้งทางโทรศัพท์และข้อความต่างๆ มากกว่าร้อยราย โดยเฉพาะทัวร์ฉีดวัคซีนที่สหรัฐ ลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่ 80% สอบถามเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ซึ่งต้องอยู่นานถึง 1 เดือน แต่บริษัทเลือกเสนอขายทัวร์วัคซีนที่ฉีดยี่ห้อจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพราะฉีดแค่เข็มเดียว และใช้เวลาเดินทางไม่นาน ทั้งนี้ลูกค้าที่จะเดินทางไปได้ต้องมีวีซ่าสหรัฐอยู่แล้วเท่านั้น ใช่ว่าทุกคนจะเดินทางได้ โดยจะจัดแบบกรุ๊ปอินเซนทีฟทัวร์ ลูกค้าเดินทางไปเฉพาะกับคนรู้จัก
ส่วนทัวร์ฉีดวัคซีนที่เซอร์เบีย จะเริ่มออกเดินทางเป็นกรุ๊ปแรกในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ปัจจุบันมีลูกค้าจองเข้ามาแล้ว 8-10 คน เป็นแบบจอยทัวร์ (Join Tour) เดินทางร่วมกับผู้อื่น ราคาแพ็คเกจทัวร์เริ่มต้นอยู่ที่ 2 แสนบาท (รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว) เพราะต้องพำนักที่เซอร์เบียนานถึง 30 วัน โดยรวมค่าใช้จ่ายตรวจแบบ RT-PCR ทั้งก่อนไปและก่อนกลับ, ค่าโรงแรมที่เป็นสถานกักกันของรัฐเพื่อกักตัวในไทยหลังจากกลับมาอีก 14 วันตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประมาณ 3-5 หมื่นบาทต่อคน, ค่าวีซ่าเดินทางเข้าเซอร์เบีย แต่ถ้ามีวีซ่าสหรัฐหรือวีซ่าเชงเก้นอยู่แล้ว สามารถใช้เดินทางได้ ทั้งนี้ลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ที่จะเดินทางไปเซอร์เบียระบุเลือกฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์
“เหตุผลที่บริษัทฯจัดทัวร์ฉีดวัคซีนขึ้นมา เพราะเห็นว่าเมื่อเดินทางไปแล้ว ได้ฉีดวัคซีนจริง และได้เที่ยวจริงโดยไม่ต้องกักตัว ประกอบกับคนไทยกลุ่มมีกำลังซื้ออยากออกไปเที่ยวต่างประเทศอยู่แล้ว และไม่อยากรอวัคซีนยี่ห้อที่ตัวเองต้องการในไทย ซึ่งต้องรออีกอย่างน้อย 2-3 เดือน อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯได้เน้นย้ำกับลูกค้าว่าการเดินทางไปทัวร์ฉีดวัคซีนอาจมีอุปสรรคระหว่างทาง เพราะนโยบายต่างๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คนที่ไปร่วมทัวร์ฉีดวัคซีนต้องยอมรับความเสี่ยงจุดนี้ได้” นายรัชพลกล่าว
- สมาคม ‘ทีทีเอเอ’ ออกโรงเตือน ย้ำความปลอดภัยลูกทัวร์สำคัญสุด
นายสุทธิพงศ์ เผื่อนพิภพ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ซึ่งเป็นสมาคมทัวร์เอาท์บาวด์ พาคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ กล่าวว่า สมาคมฯพบว่าขณะนี้มีบริษัททัวร์เอาท์บาวด์ 4 รายประชาสัมพันธ์เสนอขายแพ็คเกจทัวร์ฉีดวัคซีนที่ต่างประเทศ เช่น บริษัท ยูนิไทยทริป จำกัด และบริษัท มาย เจอร์นี่ ทราเวล จำกัด โดยทางสมาคมฯได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการทัวร์ที่จะขายทัวร์ฉีดวัคซีนว่าแม้จะเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในการทำการตลาด และไม่มีใครห้าม แต่สมาคมฯไม่ได้เห็นด้วย เพราะมองว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการทำตลาด
“หากผู้ประกอบการทัวร์จะจัดทัวร์ฉีดวัคซีนจริงๆ จำเป็นต้องตรวจสอบขั้นตอนการพานักท่องเที่ยวไปทัวร์ฉีดวัคซีนให้ดี”
นับตั้งแต่กระบวนการเดินทางออกนอกประเทศ แม้จะมีใบรับรองสุขภาพ Fit to Fly ว่าปลอดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องออกให้ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง แต่บางสายการบินที่เข้าร่วมโครงการ IATA Travel Pass ซึ่งเป็นหนังสือเดินทางดิจิทัลเพื่อบันทึกข้อมูลด้านสาธารณสุขของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) อาจพบปัญหาระหว่างการเดินทางได้ เพราะทางสายการบินนั้นๆ จะมีขั้นตอนการตรวจสอบมากพอสมควร และถ้าเดินทางไปถึงประเทศปลายทาง เช่น สหรัฐ ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะใช่ว่าทุกรัฐจะฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยวฟรีทุกรัฐ
หากรัฐหรือเขตนั้นๆ ในสหรัฐอนุญาตฉีดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติฟรี ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องการฉีดวัคซีนยี่ห้อไหน ถ้าเลือกยี่ห้อจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ฉีดแค่เข็มเดียว แต่ถ้าฉีดยี่ห้ออื่นที่ต้องฉีด 2 เข็ม นักท่องเที่ยวต้องอยู่ต่ออีก 2-3 สัปดาห์เพื่อรอฉีดเข็มที่ 2
“และถ้าเกิดฉีดวัคซีนแล้วเกิดแพ้หรือมีผลข้างเคียงขึ้นมา ก็ต้องดูว่าเงื่อนไขการเดินทางกับบริษัททัวร์นั้นๆ มีการรับผิดชอบ เช่น การทำประกันภัยต่อกรณีนี้หรือไม่ ถ้าไม่มี ก็มองว่าบริษัททัวร์ทำไม่ถูกต้อง ในเมื่อเป็นบริษัททัวร์ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะตอนนี้บริษัทประกันภัยในเมืองไทยไม่มีการรับทำประกันการฉีดวัคซีนในต่างประเทศ มีขายเฉพาะประกันโควิด-19 ที่ครอบคลุมกรณีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนในไทยเท่านั้น” นายกทีทีเอเอกล่าว