ขึ้นต่อ (7 พ.ค.64)
เก็งกำไร SAWAD SYNEX CFRESH
คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้
คาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวรับ 1560 / 1555 จุด แนวต้าน 1580 / 1585 จุด แนะนำ เก็งกำไร SAWAD SYNEX CFRESH สัญญาณทางเทคนิคมีสัญญาณบวก หลังวานนี้ปรับขึ้นแบบ V-shape ทะลุแนวต้าน 1560 / 1566 จุด ขึ้นมาได้ และฟอร์มตัวเป็นรูปแบบขาขึ้น Double Bottom กรอบ 1544-1593 จุด ปัจจัยบวก คือ นักลงทุนต่างชาติวานนี้กลับมาซื้อหุ้นคืน 1,177 ล้านบาท และ Long Set 50 Index Future 75,721 สัญญา ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ
จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศ และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ เช่น รายงานการค้าระหว่างประเทศเดือน เม.ย. ของจีน (คาดนำเข้าเติบโตสูงต่อเนื่อง +42.5% YoY ช่วยหนุนหุ้นส่งออกของไทยและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์) รายงานจ้างงานสหรัฐฯ เดือน เม.ย. (คาดจ้างงานเพิ่มและอัตราว่างงานลดลงเป็น 5.8% (Vs เดือน มี.ค. 6%) รายงานภาคบริการเดือน เม.ย.ของญี่ปุ่นและจีน
ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม
- สหรัฐฯ รายงานอัตราว่างงานเดือน เม.ย. คาดลดเหลือ 5.8% จาก 6% (+หุ้นกลุ่ม Cyclical Plays หากออกมาดีกว่าคาดการณ์)
- จีนรายงานการค้าเดือน เม.ย. คาดส่งผลบวกต่อประเทศคู่ค้า อิงแนวโน้มนำเข้าเติบโตสูง +42.5% YoY(+สินค้าโภคภัณฑ์)
- ผลประชุม BOE วานนี้มีมติปรับเพิ่มประมาณการเติบโต 2021E GDP เป็น 7.25% (เดิม5%) และคงมาตรการผ่อนคลายการเงินจนกว่าเงินเฟ้อถึงเป้าหมาย 2%
- จับตารายงานผลกำไรบจ. 1Q21E วันนี้ (วานนี้ LPN รายงานกำไรแย่กว่าคาด แต่ ZEN กำไรดีกว่าคาด)
- Ex-Dividend วันนี้มีผลต่อดัชนีฯ -0.76 จุด นำโดย BEM WHA ORI VIBHA MILL
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
USA-การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน เม.ย. คาด 978k (Vs เดือน มี.ค. 916k) อัตราว่างงานเดือน เม.ย. คาดลดลงเป็น 5.8% (Vs เดือน มี.ค. 6%) / Japan-รายงานภาคบริการเดือน เม.ย. (Jibun Bank) คาดเท่าเดิมที่ 48.3 / China-ดุลการค้าเดือน เม.ย. คาด +USD28.1bn (Vs เดือน มี.ค. +USD13.8bn) ส่งออกคาด +24.1% YoY (Vs เดือน มี.ค.30.6% YoY) นำเข้าคาด +42.5% YoY (Vs เดือน มี.ค. 38.1% YoY) รายงานภาคบริการเดือน เม.ย. ของ Caixin คาด 54.5 (Vs เดือน มี.ค. 54.3)
Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาฟื้นตัวแบบ V-Shape: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นตลอดการซื้อขายกรอบ 1551.42-1575.37 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1571.91 จุด +22.69 จุด +1.46% วอลุ่ม 9.1 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +12.62% เงินทุนและหลักทรัพย์ +2.71% สื่อและสิ่งพิมพ์ +1.98% วัสดุก่อสร้าง +1.78% หุ้นบวก >4% DELTA DITTO SAWAD KTC SIS RPC KGI SYNEX AS RBF KSL TKS SAMCO TOG
FANCY KASET CHEWA CFRESH VCOM หุ้นลบ >4% STA PSL ASP VIBHA ML UMI
+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวกต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก DJ +0.93% (+318.19 จุด) S&P500 +0.82% Nasdaq +0.37% เนื่องจากรายงานจ้างงานที่สดใส โดยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ลดลง 9.2 หมื่นราย เป็น 4.98 แสนราย (Vs คาด 5.4 แสนราย) ต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติ COVID-19 ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก DAX +0.17% CAC40 +0.28% FTSE +0.52% หลังจาก BOE ปรับเพิ่มประมาณการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ของอังกฤษ แต่ส่งสัญญาณชะลอการทำ QE ในเดือน พ.ค. – ส.ค.เป็น 3.4 พันล้านปอนด์ (เดิม 4.4 พันล้านปอนด์)
+/- ราคาน้ำมันดิบปิดลบ แต่ทองปิดบวกแรง: ราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ปิดลบ WTI -92 เซนต์ ปิดที่ USD64.71/บาร์เรล Brent -87 เซนต์ ปิดที่ USD68.09/บาร์เรล กังวลต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโลกลดลง จากวิกฤติ COVID-19 ในอินเดีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของโลก ส่วนราคาทองคำ ปิดพุ่งขึ้น + USD31.40 ปิดที่ USD1,815.70/ออนซ์ เพราะการอ่อนค่าของเงิน USD
ประเด็นสำคัญ
+/- BOE Meeting: ปรับเพิ่ม 2021E GDP เป็นเติบโต 7.25% (เดิม 5%) และปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE เป็น 3.4 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ ระหว่างเดือน พ.ค. – ส.ค. จากปัจจุบัน 4.4 พันล้านปอนด์ต่อสัปดาห์
- India: รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรอบ 24 ชม. ทำสถิติสูงสุดใหม่ +4.12 แสนราย สะสมเป็น 21 ล้านราย เสียชีวิต 3,980 ราย สะสม 2.3 แสนราย
+ คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้: ประชุมวันนี้เพื่อพิจารณารายละเอียดของมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาระลอกใหม่ ในส่วนของมาตรการ
เราชนะ และม.33 เรารักกัน ที่จะให้เงินเพิ่ม 1 พันบาท เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อนำเสนอครม. พิจารณาสัปดาห์หน้า
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.: ม.หอการค้าเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 46 (Vs เดือน มี.ค. 48.5) คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 0-1.5% (เดิม 2.5-3%)
+ Vaccine: ประธานาธิบดีไบเดนสนับสนุนการยกเว้นสิทธบัตรวัคซีนป้องกัน COVID-19 ชั่วคราว เพื่อให้ประเทศอินเดีย หรือประเทศที่ประสบปัญหาวิกฤติ
COVID-19 สามารถผลิตยาได้เพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: IRPC PTTGC SYNEX
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SAWAD SYNEX CFRESH
Derivatives: Wait&see ไปก่อน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)