“อัลติจูด”ชูเทิร์นคีย์ฝ่าโควิด ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุนลดเสี่ยง
อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ งัดกลยุทธ์เทิร์นคีย์ดึงแลนด์ลอร์ดร่วมทุน -ร่วมค้าพัฒนาโครงการขนาดเล็ก บนทำเลไพรม์ไทม์ ลดเสี่ยงความเสี่ยงช่วงวิกฤติโควิด ตอบโจทย์เรียลดีมานด์ระบุปีนี้มีโปรเจคที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพร้อมอยู่พร้อมโอน 5 โครงการเสร็จปลายปี
นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก3 ซึ่งรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา บริษัทจึงได้ใช้กลยุทธ์ “Turnkey Asset Management” ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามารองรับกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนด้วยการดึงเจ้าของที่ดินเข้ามาร่วมทุน,ร่วมค้า หรือรับจัดการและพัฒนาสินทรัพย์ ให้กับเจ้าของที่ดิน เพื่อลดความเสี่ยง
“ ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ โอกาสที่ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหม่จะเข้ามาทำธุรกิจยาก เพราะโอกาสที่ธนาคารจะปล่อยกู้แทบจะเปนไปไม่ได้ ฉะนั้นการที่เจ้าของที่เข้ามาร่วมทุน ร่วมค่าหรือจ้างเราบริหารจัดการในรูปแบบการเทิร์นคีย์ จะช่วยลดความเสี่ยงและตอบโจทย์การทุนอสังหาฯโดยมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า300 ล้านบาทถึงคุ้มค่าการลงทุน ”
นายชยพล กล่าวว่า แนวทางการลงทุนทำโครงการของอัลติจูด จะให้ความสำคัญทำเลระดับ5 ดาวในพื้นที่กลางใจเมืองที่มีศักยภาพสะดวกในการเดินทาง โดยพัฒนาโครงการขนาดไม่ใหญ่แต่สามารถรองรับกับความต้องการของเรียลดีมานด์ในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม จึงไม่ต้องกังวลกับการแข่งขันกับรายใหญ่ เพราะไม่คุ้มค่าที่เข้ามาลงทุน อาทิ โครงการ อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา พรีเมียมทาวน์โฮม จำนวน 39 ยูนิต มูลค่าเริ่มต้น 15 ล้านบาท และ อัลติจูด ฟอเรสต์ อารีย์-โมนูเมนต์ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ เพียง 10 ยูนิต มูลค่าเริ่มต้น 28 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่หาได้ยากบนทำเลอารีย์ และเป็นโครงการใหม่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง รวมมูลค่าทั้ง 2 โครงการ 998 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในปีนี้มีโปรเจคที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพร้อมอยู่พร้อมโอน 5 โครงการปลายปีนี้ ได้แก่ อัลติจูด พรูฟ สาทร,อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง, อัลติจูด สาทร-ท่าพระ, อัลติจูด คราฟ บางนา ทาวน์โฮม และอัลติจูด มาสเตอรี สุขุมวิท คาดว่าจะปิดยอดขายปลายปีนี้ยอดขาย2,400 ล้านบาท รายได้ 2,015 ล้านบาทตามเป้าหมาย
นอกจากนั้น เพื่อตอบรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่โลกเกิดวิกฤตการระบาดของไวรัสตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ได้ปรับกลยุทธ์การขายวิถีใหม่ นวัตกรรมเรียลไลฟ์ 720 องศา ซึ่งเป็นนวัตกรรมเยี่ยมชมโครงการที่สามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง 720 องศา ทั้งการชมบ้านตัวอย่าง ชมส่วนกลางเสมือนจริงได้รอบทิศทาง และสามารถทำ POP UP SPACE ออกแบบบ้านตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบด้วยตัวเอง นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของรูปแบบการขายให้ลูกค้า
นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทใช้แนวคิด “CUSTOMIZE LIVING” ในการพัฒนาโปรดักส์ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นและดีไซน์ ให้เหมาะกับชีวิตที่สุด และช่วยให้นักลงทุนเพิ่มศักยภาพของสินทรัพย์ได้ ด้วยการรุกตลาดบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมในระดับราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับราคาที่มีดีมานต์ในตลาด และมีศักยภาพในการซื้อ สะท้อนได้จากความสำเร็จจากการปิดขายโฮมออฟฟิศอย่าง อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 ในระดับราคา 13.9-17.9 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน ในระดับราคา 28 ล้านบาท
“ภาพรวมของตลาดอสังหาฯปีนี้ หลังจากเจอโควิดรอบ3 น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่เกิน10% ส่วนตลาดที่มีการเติบโตดียังคงเป็นแนวราบมากกว่าคอนโด ดังนั้นโครงการคอนโดคงจะเปิดตัวในปีหน้า”