อัพเดท 'สรรพากร' กับ 4 มาตรการลดภาระ 'ภาษี' ช่วง 'โควิด-19'
เช็คมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ช่วง "โควิด-19" จาก "สรรพากร" ทั้งการขยายเวลาการ "ยื่นภาษี" 3 ประเภท และล่าสุดการ "สนับสนุน SMEs" ยุคดิจิทัลสู้โควิด-19 โดยให้หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าสำหรับค่าซื้อหรือจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์
"กรมสรรพากร" เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนและนิติบุคคลที่ต้อง "ยื่นภาษี" และ "เสียภาษี" ประเภทต่างๆ ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่หลายฝ่ายได้รับผลกระทบ
ซึ่ง "สรรพากร" ได้ขยายเวลาการ "ยื่นภาษี" ประเภทต่างๆ ออกไป ได้แก่ "ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย" "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" และ "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา"
นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าสำหรับค่าซื้อหรือจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จ่ายให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทำหรือผู้ให้บริการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 1 แสนบาทได้ด้วย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ขยายเวลา "ยื่นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย"
การชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (แบบ ภ.ง.ด. 1, แบบ ภ.ง.ด.2, แบบ ภ.ง.ด.3, แบบ ภ.ง.ด. 53 และแบบ ภ.ง.ด. 54) ขยายเวลาการยื่นแบบฯ ถึงวันสุดท้ายของเดือนที่ต้องยื่นแบบฯ โดยให้เริ่มขยายเวลาสำหรับการยื่นแบบฯ ในเดือน ก.พ. 64 ถึง 30 มิ.ย. 64
2. ขยายเวลา "ยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม"
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.30 และแบบ ภ.พ.36) ขยายเวลาการยื่นแบบฯ ถึงวันสุดท้ายของเดือนที่ต้องยื่นแบบฯ โดยให้เริ่มขยายเวลาสำหรับการยื่นแบบฯ ในเดือน ก.พ. 64 ถึงเดือน มิ.ย. 64 เฉพาะแบบที่ยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ เฉพาะผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต โดยสามารถยื่นแบบฯ และชำระภาษีได้จนถึงวันสุดท้ายของเดือนที่ต้องยื่นแบบฯ นั้นๆ
3. ขยายเวลา "ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา"
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิมที่ต้องยื่นภายในเดือน มี.ค. 64 ให้ยื่นภายใน 30 มิ.ย. 64 เฉพาะแบบที่ยื่นทางอินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร เท่านั้น
4. สนับสนุน SMEs ยุคดิจิทัลสู้โควิด-19
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 64 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัล) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ยกเว้นภาษีเงินได้ ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีทุนที่ชำระแล้ว ในวันสุดท้าย ของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสามสิบล้านบาท
สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อ หรือจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ (Software) หรือค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ (Software) ให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ (Software) หรือ ผู้ให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ (Software)
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เฉพาะในส่วน ที่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามข้อ 1 ต้องไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน กฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
กฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ (Software) นั้น ตามพระราชกฤษฎีกา ที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
3. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ (Software) หมายความว่า โปรแกรมหรือชุดคำสั่ง ที่ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์ ที่ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจด้านต่างๆ
เช่น โปรแกรมที่ใช้ในองค์กร โปรแกรมสมองกลฝังตัว โปรแกรมด้านการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ โปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมและหรือเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมและหรือเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงโปรแกรมที่ใช้ในงานสนับสนุนการผลิต
รวมไปถึงโปรแกรมที่ให้บริการในรูปแบบโปรแกรมบริการ (Software as a Service : SaaS) ที่ผู้ใช้สามารถเรียกใช้บริการได้ตามความต้องการใช้งาน โดยทั่วไปโปรแกรมบริการนี้จะถูกจัดเก็บ อยู่บนเครื่องแม่ข่าย (Server) ของผู้ให้บริการที่ผู้ใช้บริการ
สามารถเรียกใช้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเป็นโปรแกรม ที่จะถูกดาวน์โหลดลงสู่ตัวเครื่องของผู้ใช้บริการโดยผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งตามที่กำหนด เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดก็จะไม่สามารถเข้าใช้โปรแกรมดังกล่าวได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับรอบบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2564 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ "กรมสรรพากร" ได้ที่หมายเลข 1161