ค้าปลีก-ค้าส่งเสื้อผ้าเจ็บพิษโควิดยอดขายหาย 80%

นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า ผลจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการกลุ่มเสื้อผ้าและสิ่งทอ ซึ่งรวมหมวก กระเป๋า ทุกอย่าง ทำให้ยอดขายของผู้ประกอบการทั้งค้าส่งและค้าปลีกตามย่านการค้า เช่น ประตูน้ำ แพลตตินั่ม โบ๊เบ๊ สำเพ็ง ตลาดนัดจตุจักร ยอดขายเหลือแค่ 20% หรือยอดขายหายไป 80% ซึ่งผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งมากกว่าครึ่ง หรือ 50% ปิดกิจการชั่วคราว เพื่อรอมาตรการการผ่อนปรนจากรัฐบาลออกมา

“อย่างศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ ที่ปิดบริการชั่วคราวนั้น ในส่วนของย่านการค้าอื่นๆจะปิดตามหรือไม่ มองว่าไม่ปิดก็เหมือนปิด เพราะคนไม่มาเดิน ยอดขายไปเยอะ เหลือไม่ถึง 20% โดยผู้ประกอบการค้าปลีกและค้าส่งเสื้อผ้าและของใช้ที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าในประเทศขณะนี้มีประมาณ 2.2-2.3 แสนราย แบ่งเป็น ผู้ประกอบการค้าปลีก 2 แสนราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายย่อย และค้าส่ง 2-3 หมื่นราย โดยในจำนวนนี้มากกว่า 50% ปิดกิจการชั่วคราวไปแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการธุรกิจเสื้อผ้าบางส่วนก็ได้มีการปรับตัวไปขายออนไลน์ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นมายังไม่สามารถทดแทนกับการขายช่องทางปกติ ดังนั้นมูลค่าตลาดเครื่องนุ่มห่มในประเทศที่รวมการขายให้กับนักท่องเที่ยวในปี 2564 คาดว่าจะมีมูลค่าจะหายไป 2.6.-2.7 แสนล้านบาท จากปกติที่มีมูลค่าตลาดรวม 3.2 แสนล้านบาท ซึ่งก็ต้องรอความหวังจากการกระจายวัคซีนจากรัฐบาลให้เร็ว เพื่อให้ไทยกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของคนในประเทศและรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้ามาช่วยธุรกิจ

“ส่วนมาตรการที่จะเสนอรัฐบาล ก็คงเป็นเรื่องของสภาพคล่องของผู้ประกอบการ ซึ่งมีการพูดคุยมาหลายครั้ง เป็นเรื่องเดิมๆที่รัฐบาลยังไม่สามารถเข้ามาดูแลได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม”