ECL - ซื้อ (17 พ.ค.64)
กำไรปี นี้ลุ้นแตะจุดสูงสุดเดิม แต่ PBV ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
1Q64 กำไรนิวไฮ ปรับประมาณการกำไรขึ้น
รายงานกำไร 1Q64 = 56 ล้านบาท (+400% YoY, +108% QoQ) ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส โดยเป็นผลจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง รวมทั้งมีการกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งมีการตั้งสำรองจำนวนมากในปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการ i) การใช้นโยบายบัญชีแบบอนุรักษ์นิยมในปี ก่อน เพื่อเคลียร์สินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากพอร์ต ii) การปรับระบบการคัดกรองสินเชื่อ โดยเป็นการประสานความร่วมมือ Know-how จากผู้ถือหุ้นใหญ่ Premium Financial Services (PFS) ซึ่งทำธุรกิจสินเชื่อรถมือสองที่ประเทศญี่ปุ่น และฐานข้อมูล Big data ของทาง ECL เพื่อสะท้อนพฤติกรรมของลูกหนี้คนไทย เราจึงปรับสมมติฐาน หนี้สงสัยจะสูญปี นี้สะท้อน ผลการดำเนินงานใน 1Q64 ที่ทำได้ดีกว่าคาด ทั้งนี้ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลงชั่วคราวใน 2Q64 ตามภาวะเศรษฐกิจ และจะกลับมาโตเด่นอีกครั้งใน 2H64 โดยรวมเราปรับประมาณการกำไรปี นี้ขึ้น +12% เป็น 140 ล้านบาท เติบโต +128% YoY (ใกล้เคียงจุดสูงสุดในอดีตที่ 142 ล้านบาทในปี 2561)
ความต้องการรถมือสองปีนี้แรง
เราประเมินผลจากการที่ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อรถใหม่ ขณะที่ความต้องการรถยนต์ยังมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อรถมือสองเข้าระบบให้ ECL คัดกรองการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลให้ ECL ได้สินเชื่อที่มีคุณภาพเติมเข้ามาในพอร์ต ซึ่งเป็นแผนงานหลักในปี นี้ตามเป้าหมายของผู้ถือหุ้นใหญ่ PFS
ส่วนเสริม Growth ใน 2H64
เราประเมินผลการดำเนินงานของ ECL จะโตเด่นใน 2H64 จาก i) การเริ่มจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ AUCT ในการปล่อยสินเชื่อรถประมูลตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นมา แต่เนื่องจากผลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราประเมินว่ายอดสินเชื่อจากลานประมูลรถใน 2Q64 จะยังเพิ่มไม่มากเนื่องจาก AUCT ไม่สามารถเปิ ดการประมูลได้ตามปกติ แต่คาดว่ายอดสินเชื่อในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป โดยคาดจะเน้นไปที่สินเชื่อรถจักรยานยนต์ประเภท บิ๊กไบค์ และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากเป็นสินเชื่อคุณภาพที่มีสถิติหนี้เสียน้อยกว่ารถยนต์ Passenger car และ ii) การรุกธุรกิจรับประกันคุณภาพรถมือสอง ซึ่งเป็น Know-how ของ PFS ที่ทำธุรกิจนี้สำเร็จที่ประเทศญี่ปุ่น โดย ECL ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนรถที่จะทำประกันคุณภาพไว้ที่ 5 พันคันในปีนี้ (จาก 1 พันคันในปี ก่อน) โดยผ่านเครือข่ายเต้นท์รถมือสองที่เป็นพันธมิตร เน้นโซนกรุงเทพ-ปริมณฑล และภาคตะวันออก
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมเท่ากับ 2.48 บาท/หุ้น
หลังการปรับประมาณการฯขึ้น เราประเมิน Valuation ของ ECL ยังไม่สะท้อนผลการดำเนินงานปีนี้ โดย PBV บนประมาณการฯปี 2564 ต่ำเพียง 1 เท่า คิดเป็นราว -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่คาดกำไรปี นี้ตระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดเดิมในปี 2561 ที่ระดับ ±140 ล้านบาท เราจึงปรับสมมติฐานเป้าหมาย PBV ขึ้นเป็น 1.3 เท่า ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 2.48 บาท ซึ่งที่ระดับ PBV 1.3 เท่า ก็ถือเป็นเพียงระดับของค่าเฉลี่ย PBV ในอดีตเท่านั้น