แม็คโครเข้มมาตรการดีลิเวอรี่! พนักงานขนส่งต้องบันทึกไทม์ไลน์ลงคิวอาร์โค้ด
"แม็คโคร" คุมเข้มบริการ “ดิลิเวอรี่” ย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 ขานรับข้อปฏิบัติกรมอนามัย พร้อมวางมาตรการเสริม พนักงานขนส่งทุกคนบันทึกไทม์ไลน์ผ่านคิวอาร์โค้ด เพิ่มความมั่นใจผู้ใช้บริการสั่งออเดอร์ผ่านทุกช่องทาง
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับการรณรงค์ให้ประชาชนหยุดเชื้ออยู่บ้าน ทำให้การสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในทุกช่องทางเติบโตขึ้นอย่างมาก และเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจในสุขอนามัยและความปลอดภัยให้ลูกค้า แม็คโครได้เพิ่มมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างสูงสุด ตามแนวทาง 4 ข้อปฏิบัติล่าสุด ที่กรมอนามัยออกมาเน้นย้ำผู้ให้บริการดิลิเวอรี่ ยกระดับความปลอดภัยในช่วงการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ แม็คโครให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูงสุดทั้งในสาขาและบริการดิลิเวอรี่ โดยมีข้อปฏิบัติเข้มข้นหลัก 9 มาตรการ ครอบคลุมทั้งพนักงานบรรจุและส่งสินค้า อุปกรณ์ที่ใช้ และรถขนส่ง สอดคล้องกับ 4 แนวปฏิบัติล่าสุดของกรมอนามัย ที่ว่าด้วย
1.เพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการตามมาตรการป้องกัน โควิด-19 จากที่มีอยู่เดิม
2.มีการคัดกรองพนักงานรับส่งสินค้าอย่างจริงจังทุกวัน
3.มีระบบการติดตามอาการป่วยและพฤติกรรมเสี่ยงของพนักงานโดยอาจเลือกใช้การประเมินผ่านเว็บไซต์ Thai save Thai
4.มีการจัดทำ Time line ของพนักงานในการจัดส่งสินค้าแต่ละวัน ซึ่งแม็คโครใช้ระบบคิวอาร์โค้ดในการบันทึกและติดตาม โดยเราเน้นย้ำในทุกมาตรการ โดยเฉพาะพนักงานขนส่งทุกคนต้องบันทึกไทม์ไลน์ผ่านคิวอาร์โค้ด (QR code) คัดกรองประวัติการเดินทาง อาการป่วย ก่อนอนุญาตให้เข้าทำงาน เพื่อให้สินค้าต่างๆ ถึงมือลูกค้าปลอดภัยอย่างที่สุดตั้งแต่ต้นทางสู่ปลายทาง
ที่ผ่านมา แม็คโครมีการเติบโตของจำนวนการสั่งซื้อผ่านบริการออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะใน กรุงเทพฯ นนทบุรี และเชียงใหม่ ถือเป็นสามอันดับแรกที่มีการสั่งสินค้าผ่านบริการดิลิเวอรี่สูงสุด ขณะที่สินค้าขายดี ประกอบด้วย เนื้อสัตว์แช่แข็ง อาหารสด และเครื่องปรุงต่างๆ
นางศิริพร ยังกล่าวอีกว่า “ในช่วงนี้แม็คโครยังจัดโปรโมชั่นเพื่อมอบส่วนลด สำหรับลูกค้าใหม่ที่ใช้บริการผ่านสาขาและช่องทางออนไลน์ของแม็คโคร รับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือภาครัฐในการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติด้วย"