'การบินไทย' ลุ้นศาลฯเคาะ 'ฟื้นฟู' มั่นใจโกยรายได้เส้นทางบินต่างประเทศ

รายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (28 พ.ค.) เวลา 09.00 น.ศาลล้มละลายกลางได้นัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ ตามที่มีการจัดประชุมเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหนี้ลงคะแนนโหวตผ่านแผนฟื้นฟูดังกล่าวมากกว่า 90% ซึ่งหากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้บริหารแผน กระบวนการต่อไปการบินไทยจะเข้าสู่การดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกำหนด

อย่างไรก็ดี ตามกฎหมายระบุไว้ว่าการฟื้นฟูกิจการต้องดำเนินการตามแผนแล้วเสร็จในช่วงแรก 5 ปี และขยายได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ปี โดยรวมจึงจะใช้เวลาดำเนินการแผนฟื้นฟูไม่เกิน 7 ปี ซึ่งตามแผนฟื้นฟูการบินไทยมีเป้าหมายกลับมามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เป็นบวกภายใน 3-5 ปี

สำหรับ เป้าหมายแรกของการหารายได้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรนั้น ในปี 2564 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ การบินไทยวางแผนเพิ่มรายได้นอกเหนือธุรกิจการบิน (นอนแอร์โร) เป็นหลัก ภายหลังจากปี 2563 พบว่ารายได้ส่วนนี้เข้ามาช่วยพยุงองค์กรอย่างมาก โดยมีรายได้รวมในปี 2563 กว่า 1.3 หมื่นล้านบาท

ขณะที่รายได้จากธุรกิจการบิน จากนโยบายของรัฐบาลที่เตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว นำร่อง โครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ปัจจุบันการบินไทยจึงเปิดขายบัตรโดยสารเส้นทางระหว่างประเทศ เพื่อนำนักท่องเที่ยวที่ผ่านการฉีดวัคซีนตามกำหนด เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.

โดยขณะนี้ได้เริ่มเปิดขายบัตรโดยสารเส้นทางระหว่างประเทศ อาทิ ลอนดอน – ภูเก็ต, แฟรงเฟิร์ต – ภูเก็ต, ปารีส – ภูเก็ต, โคเปนเฮเกน - ภูเก็ต และจุดบินจากเอเชียในญี่ปุ่น และเกาหลี เพื่อเดินทางมายังภูเก็ต ซึ่งจะประเดิมเส้นทางบินดังกล่าว 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เบื้องต้นหลังการบินไทยเปิดขายบัตรโดยสาร พบว่ามียอดจองการเดินทาง (บุ๊กกิ้ง) แล้วราว 30 – 40%

“ตอนนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติตอบรับต้องการเดินทางมาเที่ยวในไทยอย่างมาก การบินไทยเราเปิดระบบทดลองขายตั๋วไม่กี่วัน ยอดจองเข้ามา 30-40% เป็นการตอบรับอย่างดี ซึ่งตอนนี้เราอยู่ระหว่างรอฟังนโยบายจากทางรัฐบาล ถึงการประกาศให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ถือเป็นการกลับมาเปิดบินเส้นทางแรกของการบินไทย หลังจากต้องหยุดทำการบินจากโควิดระบาด”

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า แผนฟื้นฟูของการบินไทย จะเดินหน้าเติบโตอย่างยั่งยืน หลุดจากองค์กรฟื้นฟูกิจการตามเป้าหมาย ต้องดำเนินการจากองค์ประกออบ 3 ส่วนสำคัญ คือ 1.หารายได้ ลดค่าใช้จ่าย ปรับราคาบัตรโดยสารให้สอดคล้องกับตลาด และปรับกระบวนการบริหารจัดการออฟฟิศในต่างประเทศ เร่งหารายได้ทั้งการขายบัตรโดยสารที่เป็นธุรกิจหลัก และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากนอนแอร์โร

2.รีดไขมัน จากต้นทุนที่เคยมี ทั้งค่าเช่าต่างๆ การซ่อมบำรุง พร้อมทั้งแยกหน่วยธุรกิจที่สามารถหารายได้ไปจัดตั้งเป็นหน่วยธุรกิจย่อย ในลักษณะของ Business unit เช่น ธุรกิจศูนย์ซ่อมอากาศยาน ซึ่งนอกเหนือจากการหารือรายได้ซ่อมบำรุงอากาศยานของการบินไทย จะต้องหารายได้จากการซ่อมบำรุงสายการบินอื่นๆ

และ 3.ปรับปรุงการทำงาน โดยใช้ดิจิทัลเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลภายในองค์กรแม่นยำ และตัดสินใจแผนงานอย่างคล่องตัว เช่น ทุกเที่ยวบินที่จะทำการบิน ต้องมีการบริหารจัดการต้นทุน วิเคราะห์ผ่านระบบดิจิทัล เพื่อให้ทราบข้อมูลก่อนเที่ยวบินทำการบิน และทุกเที่ยวบินที่ตัดสินใจทำการบินต้องมีการใช้ระบบดิจิทัลคำนวณต้นทุนที่ทำให้เกิดกำไรในเที่ยวบินดังกล่าว