ลุ้นทดสอบ 1,600 (28 พ.ค.64)
วันพฤหัสที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นได้ดีนำโดยหุ้น Big Cap. ในกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มพลังงาน เช่นหุ้น AOT, CPALL, GULF ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในโซน Laggard
มีปัจจัยบวกจากแผนการฉีดวัคซีนที่มีความคืบหน้า ส่วนในช่วงท้ายตลาด MSCI มีการปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,582.96 จุด +14.38 จุด +0.92% มูลค่าการซื้อขาย 175,256 ลบ.ต่างชาติ -2,542.15 ลบ. TFEX +20,272 สัญญา ตราสารหนี้ -202.90 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 141.59 จุด + 0.41% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธนาคาร และขานรับข่าวดีปธน.โจ ไบเดน จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ +1% ปิดที่ 66.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มความต้องการใช้พลังงาน นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปค และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ในวันที่ 1 มิ.ย. โดยจะประเมินแนวโน้มการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP 1Q64 ขยายตัว 6.4% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ 3Q46
+ กทม.เผยยอดจองฉีดวัคซีนโควิดผ่าน "ไทยร่วมใจ" วันแรกทะลุ 1 ล้านรายแล้ว
+ สคร.เผยช่วง 7 เดือนแรกปีงบ 64 รัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง เบิกจ่ายงบลงทุนทะลุเป้า โดยสามารถเบิกจ่ายได้ 130,423 ล้านบาท หรือคิดเป็น 101% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม
+กนอ. เผย ญี่ปุ่นสนใจลงทุนในพื้นที่นิคมฯสมาร์ทปาร์ค ในเขต อีอีซี
ปัจจัยลบ
- ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งให้เจ้าหน้าที่ทบทวนเกี่ยวกับต้นตอของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม โดยระบุว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐยังไม่ล้มสมมติฐานที่ว่าไวรัสดังกล่าวน่าจะหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นของจีน
- สหรัฐรายงานดัชนีการทาสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย ดิ่งลง 4.4%MoM ในเดือนเม.ย. หลังเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนมี.ค.
- ม.หอการค้าไทย คาดปฏิวัติเมียนมาฉุดภาพรวมส่งออกไทยหดตัว -0.1 ถึง-1.3%
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้แรงบวกจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนของประชาชน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,570-1,600 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่เข้าคำนวณ FTSE มีผลบังคับใช้ราคาปิดวันที่ 18 มิ.ย. Large Cap : เข้า OR SCGP ไม่มีออก ,Mid Cap :ไม่มีเข้าและออก , Small Cap : เข้า KEX ออก THAI ,Micro Cap : เข้า JR, NEX, NRF, RT, SA, SO ไม่มีออก
• ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ขยายตัว STA NER TWPC ASIAN KCE HANA SNC ADB
• หุ้นกลุ่ม Reopening MINT ERW CENTEL SHR AOT CPN CRC MBK AU M ZEN SPA
หุ้นรายงานพิเศษ
LEO Bloomberg Consensus 10.00 บาท
“มุมมองบวกหลังเป็นพันธมิตรกับกลุ่ม China Post”
•ผลการดำเนินงาน 1Q64 มีกำไรสุทธิ 27.1 ลบ.+88%QoQ +108% YoY โดยมีรายได้ 473.9 ลบ. +40%QoQ +108% YoY สัดส่วนรายได้ขนส่งทางเรือคิดเป็น 82% ของรายได้รวม รายได้ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากอัตราค่าระวางที่สูงขึ้น และปริมาณสินค้าที่ให้บริการขนส่งทั้งทางเรือและทางอากาศมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยมี %GPM เท่ากับ 23% ลดลงจาก 26% ใน 4Q63 จากค่าระวางที่ปรับตัวสูงขึ้น การส่งออกสินค้าไปยัง Trade Lane หลัก มีจำนวนเพิ่มขึ้นมากจาก 4Q63 ภาวะการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลบวกเนื่องจากบริษัทสามารถติดต่อสายเรือบริการลูกค้าได้
•Project Update 1) สัญญาเช่าพื้นที่ลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (YJCD#2) ขนาด 31 ไร่ใหญ่เป็น 2 เท่าจากเดิม คาดเริ่มดำเนินการภายในปลายปี 64 2) เป็นพันธมิตรกับ China Post Group ยักษ์ใหญ่ขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์อันดับ 2 ของโลกในการขนส่งสินค้าทางอากาศต่อยอดธุรกิจขนส่งสินค้าพัสดุและไปรษณียภัณฑ์โดยเฉพาะสินค้า e-commerce ระหว่างประเทศ และขนส่งสินค้าทางอากาศจากกทม.-คุนหมิงให้กับสายการบิน China Postal Airline คาดสัดส่วนรายได้จาก China Post ราว 20% ของรายได้รวม 3) เซ็นสัญญาเช่าระยะยาว 25 ปี Self Storage เนื้อที่รวม 530 ตารางวาบริเวณตลาดน้อย พัฒนาเป็น Leo self storage สาขา Chinatown (สาขาแรก) และ container depot คาดเริ่มบริการปลายปี 64”
• ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากแนวโน้มการเติบโตที่ดีของรายได้ แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q64 เติบโต YoY นี้ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นที่จะส่งสินค้าไปขายในช่วงปลายปี และเริ่มรับรู้รายได้จาก China Post หนุนรายได้ปีนี้ เติบโต 40-45% และปี 65 ที่จะเติบโตเมื่อเทียบรายปี ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 35.8 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 50 เท่า
หุ้นมีข่าว
(+) TOA (Bloomberg Consensus 42.00 บาท) คงเป้ารายได้ปีนี้โต 10% จากปีก่อนทำได้ 1.62 หมื่นล้าน เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้า 3-10% ครอบคลุม80% ของสินค้าในพอร์ต เริ่มเห็นผลชัดในไตรมาส 3 นี้ เผยโควิด-19 ไม่กระทบมาก แม้ต้องปิดร้านไปกว่า 10 สาขา เพราะหันมารุกตลาดออนไลน์มากขึ้น (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) BCH ( ฺBloomberg Consensus 21.95 บาท) ร่วมภาครัฐฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 แล้ว พร้อมเริ่มบริการตรวจ ANTI-BODY สร้างรายได้ใหม่ แย้มสนใจนำเข้าวัคซีน 3 ยี่ห้อ “Sinopharm-Covaxin-Moderna” ฟากรัฐบาลหาวัคซีนเข็มเดียว Johnson & Johnson ราว 20 ล้านโดส (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) PRAPAT (Bloomberg Consensus - บาท) วางกลยุทธ์ลดต้นทุน คุมค่าใช้จ่าย เร่งติดตามโครงการ Sand Box ภูเก็ต เชื่อหากเดินตามแผนคาดฟื้นชัดตั้งแต่ไตรมาส 3 และ 4 นี้ พร้อมรับอานิสงส์ขายน้ำยาฆ่าเชื้อเพิ่มขึ้น มียอดเป็นอันดับ 2 รองจาก กทม. ฉายภาพผลงานปีนี้คาดทำได้ใกล้เคียงเป้า 900 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CPN (Bloomberg Consensus 59.50 บาท) คาดครึ่งหลังปี 2564 กลับมาฟื้นตัว รับอานิสงส์จากการฉีดวัคซีนโควิดหนุนยอดผู้ใช้บริการ พร้อมปักหมุดปี 2564 รายได้เติบโตต่อเนื่องจากฐานธุรกิจขยายตัว แถมจ่อเปิดอสังหา 5 โครงการใหม่ ปั๊ม Backlog เพิ่ม จากเดิม 2.6 พันล้านบาท(ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตา
ในประเทศ
สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
28 พ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
31 พ.ค. - 2 มิ.ย. ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
ต่างประเทศ
28 พ.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราว่างงาน เม.ย.
อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.
สหรัฐเปิดเผยรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนเม.ย. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.
31 พ.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย.
จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต- ภาคบริการเดือนพ.ค.