'นกแอร์' ลุ้นเจ้าหนี้โหวตแผนฟื้นฟู ส.ค.นี้ กางแผนเพิ่มไฟล์ตรับ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนฟื้นฟูกิจการ โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดวันประชุมเจ้าหนี้ เพื่อโหวตแผนฟื้นฟูกิจการ เบื้องต้นคาดว่าจะนัดประชุมเจ้าหนี้ได้ในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีเจ้าหนี้รายใดเสนอขอยื่นแก้ไขแผนฟื้นฟู

อย่างไรก็ดี ขณะนี้มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูนกแอร์ จะผ่านการพิจารณาของเจ้าหนี้ เพราะที่ผ่านมาได้มีการเจรจาหาข้อยุติกับเจ้าหนี้ค่าเช่าเครื่องบินรายใหญ่ๆ ไปแล้ว รวมทั้งมีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (Letter of Intent หรือLOI) ร่วมกันเพื่อเป็นข้อตกลงที่เจ้าหนี้จะยินดีให้นกแอร์ได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ส่วนเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด คือ กลุ่มจุฬางกูร มีมูลหนี้ 2.7 พันล้านบาท ก็พร้อมสนับสนุน 100%

“กระแสเงินสดของนกแอร์ตอนนี้ยังไม่มีปัญหา เพราะสามารถเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอผ่อนผันการชะลอจ่ายหนี้เครื่องบินได้บางส่วน และมีการควบคุมค่าใช้จ่ายจากเที่ยวบินที่ปรับลดลง ทำให้เรายังคุมค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งการบริหารงานในช่วงเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ เรายังได้เจรจาขอวงเงินกู้ฉุกเฉินไว้ใช้แล้ว”

นายวุฒิภูมิ ยังกล่าวด้วยว่า ยอมรับว่ามีเจ้าหนี้ค่าเช่าเครื่องบินบางส่วนไม่สามารถเจรจาต่อรองเรื่องยอดหนี้ได้ ทำให้นกแอร์จำเป็นต้องทยอยส่งคืนเครื่องบินบางส่วนให้เจ้าหนี้ โดยจะทยอยคืนครบทั้งหมดภายในปีนี้ แต่ยืนยันการทยอยคืนเครื่องบินดังกล่าวไม่กระทบต่อการทำการบิน เพราะปัจจุบันความต้องการเดินทางของผู้โดยสารมีจำนวนน้อยกว่า จำนวนเครื่องบินที่มีอยู่ในฝูงบินรวม 22 ลำ

สำหรับกรณีของการลดค่าใช้จ่ายพนักงาน ที่ผ่านมานกแอร์เลิกจ้างเฉพาะนักบิน เพราะจำเป็นต้องลดจำนวนเครื่องบินของฝูงบิน Q 400 ส่วนลูกเรือยังไม่มีการเลิกจ้าง โดยที่ผ่านมานกแอร์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลาย 2 ครั้ง เพื่อขออนุมัติจ่ายเงินเลิกจ้างให้แก่พนักงานที่ถูกเลิกจ้าง แต่ศาลล้มละลายฯ ไม่อนุมัติ จึงยังทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย ตามกระบวนการจึงจะสามารถจ่ายได้ภายหลังแผนฟื้นฟูอนุมัติ

ในส่วนของแผนดำเนินธุรกิจ นกแอร์อยู่ระหว่างเตรียมเพิ่มจำนวนเที่ยวบินไปยังจังหวัดภูเก็ต เป็นวันละ 4-8 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) จากปัจจุบันทำการบินวันละ 2 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) เพื่อรองรับนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ หรือ Phuket Sand Box ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยปัจจุบันมีฝูงบินที่พร้อมทำการบิน จำนวน 22 ลำ แบ่งเป็น เครื่องบินโบอิ้ง 373-800 จำนวน 14 ลำ และ Q400 จำนวน 8 ลำ

ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารในปัจจุบัน หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารลดลงเป็นอย่างมาก โดยในเดือน พ.ค.2564 จำนวนผู้โดยสารนกแอร์ปรับลดลงมากถึง 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้สายการบินจำเป็นต้องปรับลดความถี่ในการทำการบิน ในเส้นทางบินทั้ง 23 เส้นทาง ลงเหลือเฉลี่ยวันละ 2 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) จากเดิมเฉลี่ยวันละ 4 เที่ยวบิน (ไป-กลับ)