EPG - ซื้อ (2 มิ.ย.64)

EPG - ซื้อ (2 มิ.ย.64)

โทนบวก

EPG ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 12-15% ในปีวบนี้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 29-32% จาก 31.2% ในปี FY20/21 ธุรกิจฉนวนยางและชิ้นส่วนยานยนต์จะหนุนการเติบโต ของำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 16บาท; แนวโน้มกำไรยังดี

 

การเติบโตของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดี

EPG จัดประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้และให้ภาพของการดำเนินงานในปี FY21/22F โทนในภาพรวมเป็นบวกโดยราคาวัตถุดิบปิโตรเคมีเริ่มปรับตัวลง และลดแรงกดดันต่ออัตรากำไร  ราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยสร้างความผันผวน แต่ EPG จะปรับเพิ่มราคาขายเพื่อคงอัตรากำไรไว้ ฝ่ายบริหารคาดว่ารายได้ของกลุ่มบริษัทจะเติบโต 12-15% ในปีนี้จากธุรกิจฉนวนยางโต 10-12%, ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์โต 20-23%, และธุรกิจบรรจุภัณฑ์โต 5-8% และต้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นรวมที่ 29-32% จาก 31.2% ใน FY20/21 อัตรากำไรขั้นต้นทุกธุรกิจจะอยู่ในระดับที่ดี ฉนวนยาง 41-43% จาก 43.2% ใน FY20/21 ชิ้นส่วนยานยนต์ 30-33% จาก 31.0%, และบรรจุภัณฑ์ 19-20% จาก 18.6% ส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมค้าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งใน FY21/22 จาก JV ในไทย, จีน, อินเดียและแอฟริกาใต้

 

ธุรกิจฉนวนยางและชิ้นส่วยานยนต์จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตหลัก

EPG จะขยายกำลังการผลิตฉนวนยางในสหรัฐฯแล้วเสร็จในเดือนนี้ เพิ่มกำลังการผลิต 4k ตันสู่ 8k ตัน ยอดขายในสหรัฐและญี่ปุ่นแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นไตรมาสถึงตอนนี้  โดยเป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่มีอัตรากำไรสูง EPG กำลังทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ในการร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑใหม่ ที่จะเปิดตัวใน FY22/23 ยอดขายที่ TJM ในออสเตรเลียยังคงเติบโตเนื่องจากชาวออสเตรเลียชื่นชอบการผจญภัยและวิถีชีวิตแนวธรรมชาติ EPG มีร้านค้า TJM 64 ร้านในออสเตรเลียโดยเป็นเจ้าของเองสี่ร้านค้า และที่เหลือเป็นตัวแทนจำหน่าย บริษัทเห็นคำสั่งซื้อมากขึ้นจากทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และบริษัทวางแผนจะเปิดร้านค้า 4-8 ร้านค้าใหม่ในสองปีข้างหน้า

  

แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย DCF 16.0บาทต่อหุ้น; แนวโน้มกำไรยังดี

เรามีความเชื่อมั่นในการเติบโตของ EPG แม้ว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะกดดันอัตรากำไร EPG สามารถปรับเพิ่มราคาขายในไตรมาสถัดๆไปเพื่อชดเชยผลกระทบนี้  40% ของยอดขายฉนวนยางอยู่ในสหรัฐฯ ที่มียอดขายทำระดับสูงสุดใหม่ในเม.ษ./พ.ค. หลังการกระจายวัคซีน เราคงคำแนะนำ ซื้อและราคาเป้าหมายที่16.0บาทต่อหุ้น เทียบเท่า 26.5x/24.4x FY22/23F PE