แกะพอร์ต 'หมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี' กำไรลงทุนหุ้นเฉียดหมื่นล้าน
"หมอพงศ์ศักดิ์" นักลงทุนรายใหญ่ รับกำไรหุ้นกว่า 9.8 พันล้าน จากพอร์ตลงทุนรวม 2.25 หมื่นล้าน พบ NCAP สร้างผลตอบแทนสูงสุด 138.66% ส่วน KISS ทำขาดทุน 2.14% ล่าสุด เดินหน้าลงทุนใหม่ กำเงิน 120 ล้านบาท ซื้อหุ้น III จำนวน 15 ล้านหุ้น
การลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงความคึกคักต่อเนื่อง สะท้อนจากการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้น SET Index ที่ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ณ 4 มิ.ย.) ปรับเพิ่มขึ้น 162.18 จุด หรือเพิ่มขึ้น 11.19% มาอยู่ที่ 1,611.53 จุด ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดหุ้นได้รับผลตอบแทนที่ดีกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะ "นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี" หรือ หมอพงศ์ศักดิ์ นักลงทุนรายใหญ่ เจ้าของฉายา "คุณหมอหมื่นล้าน" ที่มีกำไรจากการลงทุนหุ้นเฉียด 1 หมื่นล้านบาท
จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า หมอพงศ์ศักดิ์ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ 7 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.คอมเซเว่น (COM7), บมจ.ดูโฮม (DOHOME), บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT), บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHOYO), บมจ.เจ มาร์ท (JMART), บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) และ บมจ.เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP)
ทั้งนี้ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนปัจจุบันประมาณ 2.25 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77% จากมูลค่าการลงทุนต้นปีที่ประมาณ 1.27 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ NCAP เป็นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนสูงสุด ด้วยมูลค่าการลงทุน 225.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 138.66% จากต้นปีที่ 94.6 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 14.20 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 8.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 138.66% จากราคาหุ้นต้นปีที่ 5.95 บาทต่อหุ้น
ส่วน KISS เป็นหุ้นเดียวในพอร์ตลงทุนที่สร้างผลขาดทุน ด้วยมูลค่าการลงทุน 342.5 ล้านบาท ลดลง 7.5 ล้านบาท หรือลดลง 2.14% จากวันที่่เสนอขาย IPO (19 ก.พ.) ที่ 350 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 13.70 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.3 บาท หรือลดลง 2.14% จากเดิมที่ 14.00 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ดี หมอพงศ์ศักดิ์ยังเดินหน้าลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งต่อเนื่อง ล่าสุด จากข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) วันที่ 25 พ.ค. พบว่า หมอพงศ์ศักดิ์เข้าซื้อหุ้น บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 15 ล้านหุ้น ในราคา 8 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 120 ล้านบาท