BANPU ทุ่ม 2.33 พันล้าน ซื้อหุ้นโรงไฟไฟ้าโซลาร์ 2แห่ง ที่ออสเตรเลีย
BANPU เผย บริษัทย่อยซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าโซลาร์2 แห่งในประเทศออสเตรเลีย มูลค่ารวม 2.33 พันล้าน โดยกำลังการผลิตรวม 166.8 เมกะวัตต์
บริษัท บ้านปู จํากัด (มหาชน) หรือ BANPU แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า Banpu EnergyAustralia Pty Ltd (BEN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100 และ Banpu Renewable Australia PtyLtd (BREA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จํากัด (Banpu NEXT) ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100 โดยได้มีการจัดตั้งหน่วยลงทุน Banpu Energy Hold Trust โดย BEN ถือหุ้นร้อยละ 80 และ BREA ถือหุ้นร้อยละ 20 เพื่อเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศออสเตรเลีย 2 แห่งอันได้แก่ Beryl (BSF) และ Manildra (“MSF”) ในสัดส่วนร้อยละ 100ซึ่งได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหลักทรัพย์หุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวกับบริษัท New Energy SolarLimited (NEW) เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2564 เรียบร้อยแล้ว โดยมีมูลค่าการลงทุน 97.5 ล้านออสเตรเลียดอลล่าร์ หรือเทียบเท่า 2,332 ล้านบาท
สำหรับโรงไฟฟ้า2 แห่งมีกําลังการผลิตรวม 166.8เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์BSFกําลังการผลิต 110.9เมกะวัตต์ เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิ.ย. 2562 และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์MSF กําลังการผลิต 55.9เมกะวัตต์ เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนธ.ค. 2561 โรงไฟฟ้าทั้ง 2แห่งตั้งอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีปริมาณความต้องการและการเติบโตของการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงทางภาครัฐได้มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งของประเทศ หรือ National Electricity Market (“NEM”) ตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะยาว โดยผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในกลุ่มน่าลงทุน (investment grade)
ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่มีกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาว โดยการลงทุนในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสําคัญในการดําเนินตามแผนกลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อสร้างรากฐานการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศออสเตรเลียและยังเป็นการก้าวสู่ตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีความก้าวหน้าและเป็นตลาดขายส่ง (wholesale electricity market) ที่เปิดเสรีอีกด้วย
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าในการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายกําลังการผลิต 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยมองหาโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในตลาดที่มีความเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาล