WHA มั่นใจปี 64 ธุรกิจโตตามเป้า รับศึกษาออก 'ยูทิลิตี้โทเคน'
WHA คาดผลงานปี 64 เติบโตตามแผน คงเป้าขายที่ดินใหม่ 1,030 ไร่ เหตุตุนแบ็คล็อกแน่น 515 ไร่ ด้านธุรกิจสาธารณูปโภคอยู่ระหว่างศึกษาซื้อโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม คาดเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ยอมรับสนใจออก “โทเคน” เหตุลักษณะธุรกิจเหมาะสม-มีรายได้สม่ำเสมอ
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทประเมินธุรกิจปี 2564 เติบโตได้ตามเป้าหมายทั้ง 4 ธุรกิจหลัก โดยธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมตั้งเป้ายอดขายที่ดินเติบโต 1,030 ไร่ แบ่งเป็นยอดขายที่ดินในไทย 725 ไร่ และยอดขายที่ดินในเวียดนาม 305 ไร่ ซึ่งในไตรมาส 1 ปี 2564 ขายที่ดินไปแล้ว 213 ไร่ และมียอดขายที่ดินรอโอน (Backlog) อีก 515 ไร่ ที่ค้างโอนจากไตรมาสแรก เพราะผลกระทบโควิด-19
ทั้งนี้ คาดว่าจะทยอยโอนได้ในไตรมาส 2 และช่วงครึ่งหลังที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ของบริษัทกลับมาเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ (Non-recurring Income) ที่ลดลงในไตรมาสแรกเหลือ 12% โดยมองสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลงจะหนุนให้การเดินทางติดต่อธุรกิจกลับมาเพิ่มขึ้น และหนุนให้รายได้ไม่ประจำที่เกิดจากการขายที่ดินกลับมาเติบโตดีเท่าช่วงเวลาปกติในปี 2563 ที่ 45%
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนามอีก 2 แห่ง ได้แก่ โครงการ WHA Smart Technology Industrial Zone - Thanh Hoa และโครงการ WHA Northern Industrial Zone - Thanh Hoa รวมพื้นที่ 7,500 ไร่ คาดว่าจะเข้าพัฒนาที่ดินภายในสิ้นปีนี้ หรือช้าสุดในช่วงต้นปีหน้า และจะเปิดการขายพื้นที่แก่ลูกค้าภายในต้นปี 2565
ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์วางเป้าหมายเพิ่มจำนวนพื้นที่ให้บริการใหม่อีก 2.25 แสนตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่โครงการใหม่และอาคารอุตสาหกรรมให้เช่า 1.75 แสนตารางเมตร และพื้นที่ที่เป็นสัญญาให้เช่าระยะสั้น 5 หมื่นตารางเมตร โดยปัจจุบันให้บริการแล้ว 6.9 หมื่นตารางเมตร แบ่งเป็นโครงการใหม่และโครงการให้เช่า 4.3 หมื่นตารางเมตร และพื้นที่ที่เป็นสัญญาให้เช่าระยะสั้น 2.6 หมื่นตารางเมตร
ขณะที่ธุรกิจสาธารณูปโภคคาดว่ายอดขายน้ำจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 153 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งไตรมาสแรกทำได้แล้ว 33 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนธุรกิจไฟฟ้าคาดว่ากำลังการผลิตจะเติบโตตามเป้าที่ 670 เมกะวัตต์ ซึ่งไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 594 เมกะวัตต์ ในการนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามเพิ่มเติม ปัจจุบันกำลังตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของกิจการ (Due Diligence) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
ส่วนธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม บริษัทอยู่ระหว่างติดตั้งเครือข่ายไฟเบอร์ออฟติก (FTTx) เพิ่มเติมใน 4 นิคมอุตสาหกรรม จากเดิมที่ติดตั้งไปแล้ว 6 นิคมอุตสาหกรรม รวมถึงมีแผนขายศูนย์ข้อมูล (Data Center) แก่ลูกค้าจำนวน 2 แห่ง อีกทั้งวางเป้าหมายนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ในกระบวนการทำงานกับลูกค้า
สำหรับกระแสการออกเหรียญดิจิทัล (Token) ยอมรับว่าบริษัทมีความสนใจ และอยู่ระหว่างศึกษาการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) เพราะบริษัทมีธุรกิจให้เช่าซึ่งมีรายได้ประจำ เหมาะสมแก่การออกเหรียญดังกล่าว นอกจากนี้ ไม่ปิดกั้นการศึกษาโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) รวมถึงการออกโทเคนเพื่อใช้ในกลุ่มธุรกิจของ WHA