'รีโว กรุ๊ป' ชูโซลูชันสมาร์ทลิฟวิ่ง 5 เดือนดันยอดขายกว่า 80%

 'รีโว กรุ๊ป' ชูโซลูชันสมาร์ทลิฟวิ่ง  5 เดือนดันยอดขายกว่า 80%

“ รีโว กรุ๊ป ” ชู โซลูชันสมาร์ทลิฟวิ่ง รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ในโครงการ “ไอเจ้นท์ พรีเมียม ทาวน์โฮม พัฒนาการ” ทาวน์โฮม 3 ชั้น ระดับพรีเมียม ภายใน5 เดือน ดันยอดขายกว่า 80%

นายบุญเลิศ รตินธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีโว ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากที่สุด โดยให้ความสำคัญในเรื่องของนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อมของที่อยู่อาศัยของชีวิตเมือง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย การปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ให้เข้ากับชีวิตเมือง( Urban life revolution) ด้วยการนำนวัตกรรมที่เป็นเทคโนโลยีเพื่อผู้อยู่อาศัยมาใช้ในโครงการ เน้นไปที่ระบบรักษาความปลอดภัยของ สมาร์ทลิฟฟวิ่ง ทั้งระบบ ซึ่งประกอบไปด้วยระบบ Home Automation และ ระบบ Smart niti เพื่อให้ลูกค้ามีความ มั่นใจและอุ่นใจเมื่อได้อยู่ภายในบ้าน อีกทั้ง ยังปรับฟังก์ชั่นบ้านให้มีพื้นที่ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น มุม Working Space เพิ่มพื้นที่ในการทำงานอยู่ที่บ้านตอบโจทย์ Work from home มุม U Space พื้นที่ส่วนตัวสำหรับลูกบ้าน สามารถ ปรับฟังก์ชั่นตามใจลูกค้า หรือไม่ว่าจะเป็นชั้นลอย ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านมากยิ่งขึ้น

และสำหรับโครงการ “ไอเจ้นท์ พรีเมี่ยม ทาวน์โฮม พัฒนาการ” มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 14 ไร่เศษ พัฒนาเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 169 ยูนิต โดยได้ร่วมมือกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป นำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือพื้นที่ส่วนกลาง สิ่งที่เราจะทำก็คือ การนำ Smart Home Automation Ecosystem มาใช้ในโครงการ ไอเจ้นท์ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม ซึ่งมีทั้งส่วนเซ็นเซอร์และอุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะเป็น Cube Door & Window Sensor ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนเมื่อเกิดเหตุงัดแงะประตูบ้านหรือหน้าต่าง Cube Motion Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวเมื่อมีผู้บุกรุก Smoke Sensor เซนเซอร์ตรวจจับควัน ลดความเสี่ยงกรณีเกิดไฟไหม้ Wireless camera กล้องดูความเคลื่อนไหวภายในบ้าน เมื่อเกิดเหตุในบ้าน กล้องจับความเคลื่อนไหว ณ จุดเกิดเหตุ Siren ไซเรนสัญญาณเตือนกันขโมยและ Cube Clicker อุปกรณ์ตัวนี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่โดดเด่นของโครงการไอเจ้นท์ และเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยภายในบ้านเกิดเหตุร้าย หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถกดสัญญาณได้เลย

อุปกรณ์ทุกชิ้นจะเชื่อมต่อไปที่ application บนมือถือของลูกค้าโดยที่ไม่จำกัด account จะใช้กี่ account ก็ได้ และเมื่อเกิดเหตุสัญญาณก็จะแจ้งเตือนไปในแบบของ Triple Active alerts ซึ่งเป็นการแจ้งเตือน 3 ส่วนด้วยกัน คือ 1. ส่วนของ application บนมือถือของลูกค้า 2. ส่วนของนิติบุคคลของหมู่บ้าน และ 3. ส่วนของหน่วยรักษาความปลอดภัย เพื่อให้เข้าช่วยเหลือลูกบ้านได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น


สำหรับการแจ้งเตือนในแบบของ Triple Active alerts ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Smart Niti ซึ่งถูกใช้กับบ้านทุกหลังในโครงการนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อมีผู้บุกรุกงัดประตูหน้าต่างหรือเกิดเหตุฉุกเฉินไฟไหม้ ระบบสามารถบันทึกภาพ ติดตามเหตุการณ์ และส่งสัญญาณแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดเหตุไปยัง 3 จุด ทั้งเจ้าของที่พัก ป้อมยาม และนิติบุคคลผ่าน Application ตามที่ตั้งค่าไว้ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งระบบอัจฉริยะเหล่านี้ทั้งหมดรวมอยู่ในโซลูชัน True Smart Living ที่ ได้พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้กับที่อยู่อาศัย มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยรวมถึงการเข้าถึงบริการต่างๆได้มากขึ้นเร่งด่วน และสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้า เป็นอย่างมาก

ซึ่ง โซลูชันดังกล่าว จะช่วยเติมเต็มระบบนิเวศภายในที่พักอาศัยให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยผสานความแข็งแกร่งของระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจรของกลุ่มทรู และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้ง IoT, AI, Analytics, Blockchain และ Cybersecurity เชื่อมโยงผ่านเทคโนโลยีสื่อสารล้ำสมัยและเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานด้านสุขอนามัย เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของลูกบ้าน พร้อมออกแบบฟังก์ชั่นระบบ Smart Home ให้ใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแอปพลิเคชันเดียวก็สามารถเชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างลูกบ้าน นิติบุคคล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้แบบไร้รอยต่อ รวดเร็ว และทันท่วงที

“จากระบบที่เรานำเสนอให้กับลูกค้า ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าและประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังจากที่ทางโครงการเริ่มเปิดไอเจ้นท์ พรีเมี่ยม ทาวน์โฮมในช่วงพรีเซลส์ โดยโครงการของเรามียอดขาย 60% ในวัน Presales และจนถึงปัจจุบันมียอดขายกว่า 80% ระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำว่าคนในยุคนี้เขาไม่ได้ดูแค่ทำเลหรือราคา แต่ยังมองหานวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย” นายบุญเลิศ กล่าว