‘ดิจิทัลแอสเสท’ดิสรัปเอเจนท์อสังหาฯ หนุนแหล่งทุนใหม่ธุรกิจ-เจาะนิวเจน

“กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายของการนำดิจิทัลแอสเสท เข้ามาใช้ช่วยแก้ปัญหาในมิติต่างๆ เรื่องแรก จัดการความเร็วการทำงานเอกสาร ยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์รวดเร็วขึ้นและตรวจสอบได้ เรื่องที่สอง ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ซึ่งจะประหยัดลงเพราะลดตัวกลางและนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ เรื่องที่สาม เป็นการขยายฐานลูกค้า เนื่องจากลูกค้าหลักเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้เหรียญคริปโต อนาคต 3-5 ปีข้างหน้าเมื่อเรียนจบ เข้าสู่เส้นทางการทำงาน จะต้องการจ่ายค่าสินค้าหรือบริการด้วยเหรียญคริปโตมากขึ้น รวมถึงการลงทุนต่างๆ

“ดิจิทัลแอสเสท เข้ามาเป็นตัวเสริม ทำให้ลูกค้าเกิดความสะดวกสบายขึ้น ในอนาคตดิจิทัลแอสเสทจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ที่สำคัญจะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและสร้างรายได้ของแอสเซทไวส์ควบคู่กัน”

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ 30-40% นักลงทุน 20-30% ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแอสเซทไวท์ในการทำดิจิทัลแอสเสท คู่ขนานกันเพื่อรองรับกับกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และขยายโอกาสทางธุรกิจ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยการโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ในมือก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีควาสนใจและศักยภาพในการซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุน ในรูปแบบของ “assetToken” ซึ่งต่างจาก “หุ้น” ตรงที่สามารถซื้อขาย (Trade) ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน โดยไม่ต้องรอเวลาตลาดเปิด-ปิดแบบหุ้น

กรมเชษฐ์ มองว่า การเข้ามาของ ดิจิทัลแอสเสท ถูกจังหวะเวลา! ในการเพิ่มโอกาสในการขายอสังหาฯ เพราะ ในอนาคตการทำธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญไปสู่โลก “ดิจิทัล” หากไม่ปรับตัว หรือปรับเปลี่ยนที่เร็วพอ จะถูกแย่งส่วนแบ่งตลาดหรือล้มหายตายจากไปในที่สุดฉะนั้นโจทย์สำคัญของธุรกิจต่อจากนี้ไป คือ “ความเร็ว-ความสามารถทางเทคโนโลยี-ความเข้าใจและเข้าถึงลูกค้า” จึงจะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในระยะยาวภายใต้บริบทของโลกดิจิทัลได้

“เอก อัชวรานนท์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิสัยทัศน์ บริษัท ฟิวเจอร์คอมแพทเทเร่ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลแอสเสท กล่าวว่า ดิจิทัลแอสเสทจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการอสังหาฯ จากเดิม “นักลงทุน” หรือ “คนรุ่นใหม่” ซื้อห้องลงทุนมาปล่อยเช่าอย่างเดียว ให้มี “เครื่องมือทางการเงิน” ที่จะมาช่วยให้เขาลงทุนได้ง่ายขึ้น ซื้อขายเปลี่ยนมือง่ายขึ้น โดยไม่ต้องหาเอเจนท์มาปล่อยห้องให้พร้อมคนเช่าอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาใช้เหรียญแล้วขายในตลาดได้ทันที ทว่าในช่วงแรกต้องทำความเข้าใจและสื่อสารให้เกิดความรู้ความเข้าใจให้มากขึ้น

“เหมือนสมัยก่อนให้คนใช้คิวอาร์โค้ด ยากเย็นแสนเข็นแต่พอมีโควิดปุ๊ป ทุกคนพร้อมที่จะใช้งานแม้กระทั่งร้านขายหมูปิ้ง ซึ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ และต่อไปคนซื้ออาจไม่ใช่เด็กแล้ว แต่เป็นผู้ใหญ่แค่สมัครผ่านแอพพลิเคชั่นก็สามารถลงทุนได้เลย”

เอก มองว่า ดิจิทัลแอสเสท มาช่วยแก้ปัญหา (Pain Point) ของลูกค้าหลายอย่าง เริ่มต้นจาก 1.คนมาซื้อเพย์เมนท์ไม่ต้องนำเงินบาทมาจ่ายใช้ “ดิจิทัลแอสเสท” แทน อาทิ การโอนคอนโดมิเนียมสามารถที่จะทำได้อย่างง่ายดาย หากต่อไปสามารถรับชำระด้วยเหรียญต่างๆได้ทำให้คนต่างประเทศสามารถเข้ามาลงทุนในเมืองไทยง่ายขึ้น เร็วขึ้นและขยายฐานได้มากขึ้น 2. ลูกบ้านที่อยู่ในคอนโดมิเนียมใช้ชีวิตสะดวกสบาย ง่ายขึ้น จากการสร้างอีโคซิสเต็มที่มีดิจิทัลแอสเสทที่เป็นเหรียญที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการให้บริการต่างๆ เช่น ซื้อน้ำ ซักผ้า โดยไม่ต้องใช้เงินสด

ทั้ง 2 ข้อแรกจะเป็นในมุมของผู้ใช้ ส่วนข้อ 3 ในมุมของผู้ประกอบการอสังหาฯ คือ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน (source of funds) แทนที่จะไปกู้ธนาคาร สามารถที่ระดมทุนได้จากเจ้าของเงินตั้งแต่แรก

“หลักการไม่ได้เปลี่ยนใหม่มากเหมือนกับคอนโดมิเนียมเปิดให้ลูกค้าจองก่อนเพื่อนำเงินจองเอาไปหมุน จองเสร็จเริ่มผ่อนธนาคาร เงินที่ผ่อนธนาคารเพื่อนำไปลงทุน แต่พอเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลแทนที่จะจองเปลี่ยนเป็นซื้อเหรียญลงทุนร่วมกันแลัวให้ผลตอบแทนภายหลังและทำให้ทุกคนมีความเป็นเจ้าของตั้งแต่แรก ไม่ต้อรอเสร็จ ซึ่งเป็นการขยายโอกาสในการลงทุนมากขึ้น”

“ดิจิทัลแอสเสท”จะเป็นเครื่องมือในการ“ดิสรัปตัวกลาง” ในธุรกิจอสังหาฯ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถดึงดูดลูกค้าให้มีส่วนร่วม (Engagement) ได้ตรง ไม่ต้องผ่านเอเจนท์ ทำให้ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลง รวมทั้งสามารถระดมทุนได้โดยไม่ต้องผ่านสถาบันการเงินในอนาคตดังนั้น จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่จะนำจุดเด่นของตนเองมาใช้กับ “ดิจิทัลแอสเสท” รับมือการเปลี่ยนแปลงที่ไดนามิกส์มากขึ้น!