ฟื้น‘ภูเก็ต’พระเอกร้างเวที!ท่องเที่ยวโลก พิสูจน์แซนด์บ็อกซ์ปลุกเครื่องยนต์ ศก.

รู้สึกจุกอยู่ในลำคอราวกับรอวันนี้มานาน วันที่ได้กลับมาทำในสิ่งที่เราทำได้ดี

“เหมือนพระเอกละครร้างเวที ได้หวนกลับสู่เวทีอีกครั้ง!” ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต นิยามไว้เช่นนั้นในวันที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมา หลังวิกฤติโควิด-19 ทุบเศรษฐกิจภูเก็ตซึ่งพึ่งพิงรายได้ภาคการท่องเที่ยวเป็นหลักถึง 90% โดยในปี 2562 ภูเก็ตสามารถทำรายได้การท่องเที่ยวสูงถึง 4.8 แสนล้านบาท จากฐานนักท่องเที่ยวรวม 14.4 ล้านคน แบ่งเป็นชาวต่างชาติกว่า 10 ล้านคน และชาวไทยอีก 4 ล้านคน

ส่วนอารมณ์ที่ 2 คือ “โกลาหล” เพราะการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือเป็นเรื่องใหม่ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับมือกับปัญหาใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหลังบ้านและหน้างานตอนนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติภูเก็ต ต่อด้วยอารมณที่ 3 คือ “เครียด” เครียดเพราะลุ้นหนักมากว่าผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จากนักท่องเที่ยวชุดแรกที่เดินทางมาในวันแรกของโครงการฯ (1 ก.ค.) ผลตรวจจะเป็นอย่างไร แต่พอทราบว่า “เป็นลบ” ทั้งหมดก็โล่งใจ!

“หลังจากเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เรามีการทำ AAR (After Action Review) รีวิวว่าจุดไหนของกระบวนการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ประณีต กระทั่งเห็นช่องว่าง จึงตั้งทีม Sandbox Conscious เพื่อปิดช่องว่างนั้น ส่งมัคคุเทศก์พูดได้หลายภาษาไปรับนักท่องเที่ยวที่เสร็จสิ้นจากขั้นตอนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มาขึ้นรถตรงไปยังโรงแรมเพื่อรอผลตรวจในห้องพัก”

สำหรับภาพรวมของปัญหาที่ยังพบอยู่คือเรื่องของ “การเชื่อมโยงฐานข้อมูล” ระหว่างบางหน่วยงาน เช่น โรงแรมที่ได้เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย SHA Plus กับหน่วยงานด้านสาธารณสุข อยากให้นำข้อมูลมาเชื่อมกันเพื่อง่ายต่อการใช้งาน

อีกเรื่องคือปัญหา “การจ้างงาน” เดิมก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 คาดมีแรงงานภาคท่องเที่ยวในภูเก็ตรวม 2-2.2 แสนคน กว่า 1.5 แสนคนอยู่ในภาคธุรกิจโรงแรม โดยในช่วงที่วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนัก ประเมินว่ามีแรงงานลดลงไปกว่า 70% และคาดว่าในไตรมาส 4 นี้จะมีแรงงานหวนคืนสู่ระบบเพิ่ม 30% จากปัจจุบันมีการรักษาการจ้างงานอยู่ที่ระดับ 50% ของทั้งเกาะภูเก็ต

แม้ยอดนักท่องเที่ยวสะสมเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในช่วง 5 วันแรก (1-5 ก.ค.) พบว่ามีจำนวน 1,896 คน (ไม่พบผู้ติดเชื้อ) ต่างจากยอดที่ภูเก็ตเคยได้นักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 50,000 คน ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมหลายแห่งยังไม่กล้ากลับมาเปิดให้บริการในไตรมาส 3 เพราะเปิดกับปิด...ก็เจ็บไม่ต่างกัน!!

แต่สมาคมฯมองว่านี่คือ “บทพิสูจน์สำคัญ” ในช่วง 90 วันแรกของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์! เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจเริ่มกระเตื้อง และจับตาดูในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นของจริง! ชี้วัดความสำเร็จของโครงการฯซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยการระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศด้วย

ก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า สมาคมฯตั้งเป้าในไตรมาส 4 เดือน ต.ค.นี้ ภูเก็ตจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัว 30% หรือคิดเป็น 3-4 แสนคนต่อเดือน จากยอดที่เคยได้เฉลี่ย 1.2 ล้านคนต่อเดือน หากได้ตามเป้าก็ “จุดพลุ” ฉลองแล้ว! และน่าจะหนุนให้โรงแรมในภูเก็ตกลับมาเปิดให้บริการเพิ่มเป็น 40-50% ของทั้งหมดที่มีกว่า 3,000 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพัก 1.5 แสนห้องพัก

ขณะที่ปลายปี 2565 นักท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% และปลายปี 2566 ขยับเพิ่มเป็น 80-100% กลับมามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตรวม 14 ล้านคนเท่ากับปี 2562

โดยปัจจุบันมีโรงแรมในภูเก็ตเปิดให้บริการภายใต้มาตรฐาน SHA Plus จำนวน 420 แห่ง และภายใต้มาตรฐาน SHA อีกจำนวน 100-200 แห่ง รวมเป็น 500-600 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพักมากกว่า 2 หมื่นห้อง ถือว่าไม่ได้เปิดให้บริการเพิ่มมากนักเมื่อเทียบกับจำนวน 300-400 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพัก 1.5-2 หมื่นห้องในช่วงก่อนเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ทั้งนี้คาดว่าตลอดไตรมาส 3 นี้ อัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในภูเก็ตส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 5-10% เนื่องจากมีแค่ตลาดต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยว ตลาดนักท่องเที่ยวไทยยังไม่กระเตื้องเพราะมีปัจจัยเรื่องยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ได้ ยกเว้นบางโรงแรมที่ทำซูเปอร์ดีล (Super Deal) ออกโปรโมชั่นทำการขายได้ดีจนมีอัตราเข้าพัก 40% สูงกว่าภาพรวมของอัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในภูเก็ต

แม้ช่วงแรกของการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อาจจะมีโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการเพิ่มไม่มากนัก แต่ก็ช่วยหนุนให้ธุรกิจร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวกลับมาเปิดให้บริการมากขึ้น เกิดการจ้างงานเพิ่ม 20,000 คนในช่วงไตรมาส 3 นี้ นับเป็นสัญญาณบวกและแรงส่งที่ดี