'ประกันชีวิต' 5เดือนแรกปีนี้ เบี้ยรับรวมแตะ2.4แสนล้าน โต3.17%
สมาคมประกันชีวิต เผย5เดือนเบี้ยประกันรับรวมยังโต 3.17%ที่ 2.4 ล้านบาท เป็นเบี้ยใหม่ 6.84 หมื่นล้านบาท โต 10.82% และเบี้ยต่ออาย 1.72 แสนล้านบาท โต 0.42% อัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ 81% พบประกันควบลงทุน ยูนิตลิงค์-ยูนิเวอร์แซลไลฟ์ โตพุ่ง 97.52%
นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธุรกิจประกันชีวิต 5เดือน ปี 2564 (ม.ค.-พ.ค.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 240,825.51 ล้านบาท เติบโต 3.17% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 68,431.61 ล้านบาท เติบโต 10.82% เป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 37,784.93 ล้านบาท หดตัว 5.54% เบี้ยประกันภัยจ่ายครั้งเดียว 30,646.68 ล้านบาท เติบโต 40.94% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป 172,393.90 ล้านบาท เติบโต 0.42% อัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ 81%
ช่องทางตัวแทนประกันชีวิตยังคงเป็นช่องทางหลัก ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 115,529.05 ล้านบาท เติบโต 0.93% มีสัดส่วน47.97% รองลงมาเป็นการขายผ่านธนาคาร เบี้ยประกันภัยรับรวม 100,906.68 ล้านบาท เติบโต6.21% มีสัดส่วน 41.90% ตามด้วยช่องทางนายหน้าประกันชีวิต เบี้ยประกันภัยรับรวม 12,008.45 ล้านบาท เติบโต 1.03% มีสัดส่วน 4.99%
ช่องทางอื่นๆเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,165.08 ล้านบาท เติบโต 3.06% มีสัดส่วน2.56% ช่องทางโทรศัพท์เบี้ยประกันภัยรับรวม 5,937.42 ล้านบาท เติบโต2.19% มีสัดส่วน 2.47% ช่องทางดิจิทัลเบี้ยประกันภัยรับรวม 262.41 ล้านบาท เติบโต 0.64% มีสัดส่วน 0.11% และ ช่องทางไปรษณีย์ เบี้ยประกันภัยรับรวม 16.41 ล้านบาท หดตัว 15.33% มีสัดส่วน 0.01%
ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงเป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Universal Life และ Unit Linked) ซึ่งมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 17,250.63 ล้านบาท เติบโต 97.52% ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 39,043 ล้านบาท เติบโต 7.21% และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญที่มีสัดส่วนการขายอยู่ในระดับน้อยแต่มีเติบโต 7.32%
จากการที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Universal Life และ Unit Linked) เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เนื่องจากแบบประกันดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เอาประกันได้ครบทุกช่วงวัยพร้อมยังให้อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าการฝากเงินธนาคาร ส่วนผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลมีทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 8-12% ทุกปี รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) และสถานการณ์การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงอื่นๆ ทำให้ประชาชนต้องตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันธุรกิจประกันภัยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกความต้องการและทุกกลุ่มเป้าหมายพร้อมมีการบริการหลังการขายแบบครบวงจรและมีการเชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาลด้วย ในส่วนของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญนั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ที่สามารถเข้ามาช่วยในการบริหารรายรับรายจ่ายในระดับที่เพียงพอต่อความเป็นอยู่หลังเกษียณอายุได้เป็นอย่างดี เพื่อสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ทางสังคมในปัจจุบันด้วย อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจจะต้องร่วมมือกัน ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบบำนาญให้สามารถตอบโจทย์เพื่อวัยเกษียณได้อย่างเหมาะสมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง