พาณิชย์ อัดกิจกรรมออนไลน์-ออฟไลน์ ปั๊มยอดส่งออกครึ่งปีหลัง

พาณิชย์ อัดกิจกรรมออนไลน์-ออฟไลน์ ปั๊มยอดส่งออกครึ่งปีหลัง

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รับลูก “จุรินทร์” โชว์แผนจัดกิจกรรมออนไลน์ปั๊มยอดส่งออกครึ่งปีหลัง 2564 เกือบ 100 กิจกรรม ทั้งจัดเจรจาธุรกิจออนไลน์ พาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ จัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบเสมือนจริง จัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้เร่งดำเนินกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มรายได้เข้าประเทศ โดยมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้กับสินค้าไทย ทั้งการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching – OBM) การพาผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง การจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และแพลตฟอร์มชื่อดัง รวมแล้วประมาณเกือบ 100 กิจกรรม ครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก ที่เป็นตลาดส่งออกของไทย

สำหรับการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ มีกำหนดจัดกิจกรรมอีก 20 ครั้ง ในช่วงเดือนก.ค.-พ.ย.2564 ในกลุ่มสินค้าต่าง ๆ เช่น สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ 60+ การพิมพ์ ผลไม้สด แปรรูป ผลิตภัณฑ์เกษตร ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารแปรรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนอะไหล่และอปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร วัสดุก่อสร้าง เครื่องดื่ม เครื่องมือแพทย์ ของใช้ภายในบ้าน และธุรกิจบริการ เช่น ดิจิทัลคอนเทนต์ ธุรกิจการศึกษานานาชาติ ธุรกิจบริหารการจัดงาน ธุรกิจบริการ Tech Startup และแฟรนไชส์

162668061325

 

 

นายสมเด็จ กล่าวว่า ส่วนการนำผู้ประกอบการไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบออนไลน์ Mirror Mirror (ส่งแต่สินค้าไปจัดแสดงและเจรจาธุรกิจผ่านออนไลน์) และ Pop Up Store (ส่งสินค้าและบริการไปจัดแสดง) ประมาณ 16 ครั้ง ได้แก่ งานภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ , ดิจิทัลคอนเทนต์ ที่สิงคโปร์ , อาหารและธุรกิจโรงแรมที่เมืองโกยาง เกาหลีใต้ , ไลฟ์สไตล์ที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ , เครื่องสำอางที่กวางโจว , อาหาร ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย , สินค้าอุปโภคบริโภคที่หนานหนิง , ไลฟ์สไตล์และของใช้ของตกแต่งบ้าน ที่ปารีส ฝรั่งเศส , ก่อสร้าง ที่ดูไบ , สินค้าอุปโภคบริโภค ที่เซี่ยงไฮ้ , การแพทย์ ที่เยอรมนี , ยานยนต์ ที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ , ภาพยนตร์ ที่สหรัฐฯ เกม ที่ปูซาน เกาหลีใต้ , ชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ที่ดูไบ , ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง ที่ยุโรปและ CIS

การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง เหลือจัดงานอีก 6 ครั้ง คือ งาน  Bangkok International Digital Content Festival 2021 4-6 ส.ค.2564 (ดิจิทัลคอนเทนต์) TILOG VE 2021  25-27 ส.ค.2564 (โลจิสติกส์) , Thai G.R.O.O.V.E Online Business Matching ส.ค.2564 (สินค้าแบรนด์ไทยชั้นนำ) , THAIFEX Virtual Trade Show พ.ค.ก.ย.2564 (อาหาร) และ  THAIFEX-ANUGA ASIA–Hybrid Edition 29 ก.ย.–3 ต.ค.2564 (อาหาร)

นอกจากนี้ จะจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ และเจรจาธุรกิจออนไลน์ ในอาเซียน 4 ครั้ง ได้แก่ ย่างกุ้ง เมียนมา พนมเปญ กัมพูชา เกิ่นเทอ เวียดนาม พระตะบอง กัมพูชา และเอเชียใต้ 3 งาน ได้แก่  อินเดียตะวันตก (มุมไบ สุรัต อินดอร์) เจนไน และนิวเดลี (เป็นลักษณะ OBM เฉพาะนิวเดลี ที่เป็น Virtual Event )และจีน 1 ครั้ง ที่คุนหมิง

162668065015  

ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆ จะจัดประมาณ 44 ครั้ง โดยโปรโมตผลไม้ไทยทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ในเมืองต่าง ๆ ของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ฝอซาน จ้านเจียง อู่ฮั่น ชิงต่าว ต้าเหลียน เซียะเหมิน ฉางซา คุนหมิง เฉิงตู และฉงชิ่ง , ร่วมมือกับ AEON , Beisia , DONKI และผ่านรายการ TV Shopping จัดส่งเสริมการขายสินค้าอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป ผลไม้พรีเมี่ยม เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้าผลไม้ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส ขนมคบเคี้ยว ของใช้ ของตกแต่งบ้าน เครื่องสำอาง สปา และผลิตภัณฑ์ยางพารา ผ่านช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ ใน 12 เมืองของจีนรวมฮ่องกง (ชีอาน เฉิงตู เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หนานหนิง ไป่เซ่อ ฮาร์บิน เทียนจิน กวางโจว จงซาน เซี่ยเหมิน และฮ่องกง) , จัดงาน Taste of Thailand 202

ส่งเสริมสินค้าอาหารไทย ณ ห้าง Hyundai กรุงโซล , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้าข้าว อาหารแปรรูป เกษตรแปรรูป โดยร่วมกับห้างซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย และฮิสแปนิก ในสหรัฐฯ อาทิ Hmart, Lotte Plaza, 99 Asian Supermarket, Emart, Food Fair Wholesale, Price Rite, Western Beef, C-Town , จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าเครื่องประดับของนักออกแบบไทยสู่ Showroom ในนครเซี่ยงไฮ้ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย สินค้านวัตกรรมที่มีการออกแบบและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่ตลาดญี่ปุ่นในรูปแบบ Pop Up Store  

ขณะเดียวกัน จะส่งเสริมสินค้าไทยใน TOP THAI Store บนแพลตฟอร์ม e-Commerce ชั้นนำของต่างประเทศ เช่น Tmall Global จีน , Bigbasket อินเดีย , Klangthai กัมพูชา และ Amazon สหรัฐฯ และส่งเสริมสินค้าไทย กลุ่มสินค้าแนวดีไซน์ และ Craft สู่ตลาดการค้าออนไลน์ในยุโรป ผ่านแพลตฟอร์ม meisterstrasse.com